กรมประมงเตรียมเจรจาขอใช้น่านน้ำปาปัวนิวกินีหลังสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยไม่เพียงพอ

กรมประมงเตรียมเจรจาขอใช้พื้นที่น่านน้ำปาปัวนิวกินี ให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปทำประมงเพิ่ม หลังพบว่าน่านน้ำไทยมีทรัพยากรสัตว์น้ำไม่เพียงพอต่อการบริโภค โดยผู้ประกอบการไทยสามารถแปรรูปสัตว์น้ำในปาปัวนิวกินีเพื่อส่งออกยุโรปไปยังยุโรปโดยไม่เสียภาษี

กรมประมงเตรียมเจรจาขอทำการประมงในพื้นที่น่านน้ำประเทศปาปัวนิวกินี เพราความต้องการบริโภคสัตว์น้ำของไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ปริมาณสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยที่เริ่มไม่เพียงพอ ซึ่งน่าน้ำของประเทศปาปัวนิวกีนี งมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง เช่น ปลาทูน่า กุ้งมังกร ปลาหน้าดิน ชนิดต่างๆ

นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง ระบุการทำประมงในพื้นที่ของปาปัวนิกินี ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปทำประมงนอกเขต 3 ไมล์ทะเล ในทะเลอาณาเขตน่านน้ำหมู่เกาะ และในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ โดยการเสียค่าใบอนุญาตทำการประมง ซึ่งเรือประมงสามารถนำสัตว์น้ำที่จับกลับประเทศเพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรมได้ หรือหากทำการแปรรูปสัตว์น้ำในปาปัวนิวกินีเพื่อส่งไปตลาดยุโรป ก็จะได้รับสิทธิพิเศษยกเว้นจัดเก็บภาษีอากรนำเข้าตามข้อตกลงทวิภาคีระหว่างปาปัวนิวกินี และสหภาพยุโรป

ทั้งนี้ สินค้าประมงจากไทยที่ส่งไปยังสหภาพยุโรปต้องเสียภาษีอากรนำเข้าถึงร้อยละ 24 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยดึงนักลงทุนไทยให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันมีเรือประมงประเทศจีน, ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศเกาหลี, ประเทศฟิลิปปินส์, ประเทศไต้หวัน และประเทศวานูอาตู เข้าไปทำการประมงในปาปัวนิวกินีแล้ว ซึ่งไทยจะทำการศึกษาข้อมูลเพื่อวางแนวทางในการร่วมทุนด้านการทำประมง และการแปรรูปสัตว์น้ำในเชิงลึก พร้อมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าทำการประมงในน่านน้ำปาปัวนิวกินีต่อไป