วันนี้ (6 ม.ค. 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาทีนี้ห้องเสื้อไหนๆ ก็จองตัวเป็นไม้แขวน หลัง แนท-อนิพรณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ไปสร้างอิทธิพลแฟชั่นบนเวทีโลกฝ่าด่านเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้าย พ่วงฉายา “แฟชั่นนิสตาแห่งกองประกวด” ปีนี้ เพราะไม่ใช่แค่คว้าชุดประจำชาติมาได้ เธอยังทำให้ชุดราตรีสีขาวที่ใส่ถูกพูดถึงเป็นหนึ่งในชุดที่สวยงามที่สุด ส่งให้แบรนด์ไทยที่ใส่ไปแจ้งเกิดไปตามๆ กัน
ครั้งนี้ แนทยังสวมบทบาทนางแบบประชันกับ จีนา-วิรายา ภัทรโชคชัยสาวหน้าคมจากรายการ The Face Thailand ทั้งคู่มาร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ The Dressmaker ที่เล่าถึงการต่อสู้ของช่างตัดเสื้อสาว ที่มีแฟชั่นเป็นอาวุธ มายกระดับสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ให้มีบทบาทขึ้นมา สะท้อนอิทธิพลแฟชั่นที่เป็นมากกว่าความสวยหรือความงาม
แนท-อนิพรณ์ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เป็นตัวแทนประเทศไปประกวดประชัน แต่เพราะเธอดึงบุคลิกได้เข้าเสื้อผ้า ท่าโพสแข็งแรงขณะใส่ชุดประจำชาติที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ก็ส่งให้ 'ตุ๊กๆ ไทยแลนด์' เลื่องลือไปไกล เป็นตัวอย่างการออกแบบชุดสร้างภาพสาวไทยยุคโมเดิร์น
ในอดีต มีหลายครั้งที่เสื้อผ้าเปลี่ยนโฉมสังคมไป ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผู้หญิงเริ่มใส่กระโปรงสั้นและกางเกงคล่องตัว สะท้อนว่า ณ ขณะนั้น ผู้หญิงต้องลุกมาช่วยสามีทำงานนอกบ้าน เพราะเศรษฐกิจไม่สู้ดี ซึ่งเห็นได้ในผลงานของตำนานแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลกทั้ง โคโค แชลแนล (Coco Chanel) หรือแม้แต่ คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) ต่อมาในยุคหนึ่งก็เปลี่ยนไป เสื้อผ้าชุดเดียวกันแต่กลับสามารถใส่ได้ทั้งหญิงและชาย
ทั้งนี้ แนท-อนิพรณ์ เผยว่า ผู้หญิงที่มีอิทธิพลทางแฟชั่นต่อเธอ เป็นคนเดียวกับที่หลายๆ คนชื่นชอบ คือ แคนดิซ สวานโพเอล นางแบบระดับอินเตอร์ ในฐานะนางฟ้า วิคตอเรีย ซีเคร็ต เสน่ห์ที่แนทชอบสวานโพเอลเพราะรูปร่างที่ดีไม่ว่าจะใส่อะไรก็สวย ถึงจะแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ ก็ยังดูดี และเธอยกให้เป็นไอดอลด้านการแต่งกายของตัวเอง เนื่องจากในวันธรรมดา เธอมักแต่งตัวแนวสปอร์ต มั่นๆ ทะมัดทะแมง นั่นเอง