ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานสภาพเศรษฐกิจไทยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นค่อนข้างทรงตัว โดยธนาคารพาณิชย์มีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพุธ รวมทั้งมีการตัดจ่ายเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบธนาคาร ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) มีระดับหนาแน่นที่ 2.90% ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี (Bilateral Repo) ระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน ทรงตัวที่ 2.99892-3.00% เทียบกับระดับ 3.00% ในสัปดาห์ก่อน
ในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 12-16 มี.ค. 2555 ธนาคารพาณิชย์จะมีการตัดภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือนผ่านระบบธนาคารในช่วงต้นสัปดาห์ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องใกล้ระดับ 3.00% ขณะที่ตลาดคงติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 13 มี.ค. 2555
ด้านเงินบาทยังคงผันผวน โดยเงินบาทอ่อนค่าในช่วงแรกท่ามกลางความกังวลของตลาดก่อนที่จะรู้ผลของการแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชน (PSI) ขณะที่ แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ก็เป็นปัจจัยที่กระตุ้นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในช่วงต่อมา ตามแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความคาดหวังต่อการบรรลุข้อตกลงสว็อปพันธบัตรของกรีซ อนึ่ง เงินบาทลดช่วงบวกลงในช่วงท้ายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดกลับมากังวลว่ากระบวนการแลกพันธบัตรของกรีซครั้งนี้ อาจถูกจัดเข้าเป็นเหตุการณ์ที่มีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้