วันนี้ (7 ธ.ค.) นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินไทยหลังช่วงปีใหม่นี้ เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ ได้แก่ การปรับลดลงของดัชนีตลาดหุ้นจีนที่สัปดาห์นี้ปรับลดลงแล้วถึงร้อยละ 12 จนทำให้ต้องประกาศหยุดทำการซื้อขายชั่วคราว (circuit breaker) ในวันจันทร์และวันนี้ (7 ม.ค.59) สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการประกาศตัวเลข Purchasing Managers Index (PMI) ของจีนทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการที่ชะลอลง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมีน้ำหนักมากขึ้น
นอกจากนี้ทางการจีนยังกำหนดค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ตั้งแต่ต้นปี เงินหยวนที่ซื้อขายในประเทศจีน (CNY) และที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศ (CNH) อ่อนค่าไปร้อยละ 1.5 และ 1.9 ตามลำดับ รวมถึงผลจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน และการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวส่งผลให้ความเชื่อมั่นโดยรวมของตลาดการเงินโลกอ่อนแอลง และกดดันตลาดหุ้นและค่าเงินภูมิภาคปรับอ่อนค่าลง
สำหรับค่าเงินบาท ตั้งแต่ต้นปีเคลื่อนไหวในกรอบ 36.08-36.35 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. โดยอ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 0.7 นับจากสิ้นปีที่แล้ว การอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับค่าเงินภูมิภาคท่ามกลางความเสี่ยงในตลาดการเงินโลกที่มีมากขึ้น
อย่างไรก็ดีในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสัญญาณความผิดปกติหรือความตื่นตระหนกเกิดขึ้นในตลาด สำหรับภาคเอกชนควรติดตามสถานการณ์ความผันผวนของตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด และพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับกับความผันผวนที่มีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไป