มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ชี้แนวโน้มความรุนแรงในสตรีเพิ่มขึ้น เหตุคนในครอบครัวเป็นผู้กระทำ

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ระบุสถานการณ์ความรุนแรงในสตรีช่วงรอบปีที่ผ่านมา ยังมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากจุดอ่อนของกฎหมาย ที่ให้สิทธิความคุ้มครองผู้กระทำมากกว่าผู้เสียหาย ทำให้ผู้ถูกกระทำเกิดความอับอาย ไม่กล้าไปแจ้งความ

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเปิดเผยสถิติการละเมิดทางเพศในรอบปีที่ผ่านมา พบว่า ข่าวการละเมิดทางเพศในหน้าหนังสือพิมพ์ มีมากกว่า 158 ข่าว สาเหตุมาจากบุคคลในครอบครัวเป็นผู้กระทำ เช่น พ่อ ตา พี่ชาย รวมถึง เพื่อนบ้าน เพื่อน ครู และพระภิกษุ โดยผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่อายุ 11-15 ปี และพบว่าผู้ถูกกระทำอายุน้อยที่สุด เป็นเด็กหญิงอายุเพียง 5 เดือน และอายุมากที่สุด 89 ปี ขณะที่อายุของผู้กระทำมากสุดที่ 76 ปี ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ข่มขืนลูกสาวของตัวเอง

นายจเด็จ เชาว์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยว่า การใช้ความรุนแรงมีแนวโน้มสูงขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 20-30 ต่อปี และมีผู้หญิงที่ถูกระทำ ขอเข้ารับคำปรึกษาที่มูลนิธิมากกว่า 20 คนต่อเดือน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากจุดอ่อนทางข้อกฎหมาย ที่จะให้สิทธิคุ้มครองผู้กระทำมากกว่าผู้เสียหาย จนทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกอายไม่กล้าแจ้งความ นอกจากนั้นข้อมูลของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลยังพบว่า ปัจจุบันความรุนแรงทางเพศยังเกิดขึ้นกับกลุ่มหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยพบกรณีพ่อข่มขืนลูก โดยอ้างว่าลูกไปคบกับทอม  กรณีชายข่มขืนทอมโดยอ้างว่าให้กลับใจเป็นผู้หญิง ซึ่งผู้กระทำคิดเพียงว่า ถ้าสามารถกระทำต่อกลุ่มหลากหลายทางเพศได้ก็จะทำ เพราะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ทางมูลนิธิฯจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีศูนย์ให้คำปรึกษาที่ครอบคลุมกลุ่มคนเหล่านี้ และควรผลักดันกฎหมายที่เอื้อต่อการปกป้อง และพิทักษ์สิทธิกลุ่มหลากหลายทางเพศกว่าที่เป็นอยู่