คืบหน้ากรณีพบสารตะกั่วในเด็ก อ.อุ้มผาง จ.ตาก แนะป้องกันหญิงตั้งครรภ์ หวั่นกระทบพัฒนาการทางสมอง
ร้านจำหน่ายเครื่องครัวในเขตเทศบาล จ.เชียงราย ยังคงจำหน่ายภาชนะปรุงอาหาร ที่มีลักษณะคล้ายกับหม้อแขกที่ชาวกะเหรี่ยงใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ใช้ทำอาหาร ซึ่งถูกระบุว่า เป็นแหล่งที่มาของสารตะกั่วสะสมอยู่ในร่างกายเกินค่ามาตรฐาน
ศิริพร ทาบุญสม พนักงานของร้าน ยืนยันว่า สินค้าที่นำมาจำหน่ายผลิตในไทยทั้งหมด ส่วนที่พบสารตะกั่ว อาจเป็นภาชนะที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่แพทย์จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ ที่ลงพื้นที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เพื่อสุ่มตัวอย่างตรวจเลือดเด็กกว่า 200 คน เมื่อต้นปี พ.ศ.2554 พบว่า เด็กเกือบร้อยละ 70 มีค่าสารตะกั่วในร่างกายสูงเกินเกณฑ์ แต่ยังไม่สรุปแหล่งที่มาของสารตะกั่ว
นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก ระบุว่า แหล่งที่ของสารตะกั่วที่พบในชาวกะเหรี่ยงเชื่อได้ว่า ร้อยละ 90 มาจากภาชนะหุงต้ม หรือหม้อแขก ที่เสื่อมสภาพจนมีสารตะกั่วปนเปื้อนออกอาจเกิดจากอลูมิเนียมที่ใช้ทำภาชนะไม่บริสุทธิ์พอ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า ร้อยละ 28 ของเด็กกะเหรี่ยงมีสารตะกั่วสูง ส่งผลให้มีอาการตัวซีด และพัฒนาการทางกายและสติปัญญาช้า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งข้อมูลและหาทางป้องกัน โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ และเด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบเป็นลำดับแรกเพราะอยู่ในช่วงที่เด็กมีพัฒนาการทางสมอง
