Contract Farming –ต้นเหตุมลพิษอากาศเหนือ
*** อ่านรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในไฟล์ Word ***
เป็นทฤษฎีใหม่ว่าต้นเหตุมลพิษเหนือที่วิกฤติสูงสุด ไม่ใช่เฉพาะเป็นการเผาป่าภายในประเทศเรา –ปัญหาการเผาขยะในเขตเมืองเชียงใหม่ ฯลฯ แต่เพียงอย่างเดียว แต่มีสาเหตุใหญ่ เนื่องจากการขยายตัวของ Contract Farming ที่ไทยเราไปขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพด
ดังจะเห็นจากภาพถ่าย โดยกล้อง MODIS ที่ติดตั้งอยู่บนดาวเทียม "อะควา" ขององค์การนาซ่า สีแดงคือจุดที่เกิดไฟป่า เส้นสีดำเล็กๆ เป็นเส้นพรมแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2550 ว่ามี Hot Spot ในเขตพรมแดนสปป.ลาว - สหภาพพม่า ค่อนข้างสูง
ข้อสันนิษฐานมีว่าในปีนี้ยอดการสั่งซื้อข้าวโพดของสหรัฐอเมริกามีสูงขึ้นมาก เนื่องจากสหรัฐฯ จะนำไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ ดังนั้น ในฤดูการเพาะปลูกภายในโครงการ Contract Farming ในประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ภายในประเทศไทยเองก็ยังเพาะปลูกแบบบุพกาล หรือแบบดั้งเดิมที่ต้องเผาที่เพื่อเพาะปลูกพืชกัน ในเมื่อปีนี้ดีมานด์ด้านพืชเป้าหมายของตลาดมีสูง ก็เกิดการเผาป่ากันใหญ่เพื่อสนองกับความต้องการสินค้าภายในตลาด
มีการประเมินกันว่าประโยชน์จากโครงการ Contract Farming ในปี 2549-2550 ช่วยให้เกิดการจ้างงานและการพัฒนาในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน 1,751,452.25 ไร่ ไทยสามารถนำเข้าพืชเป้าหมาย 9 ชนิด ได้ 1,272,503 ตัน ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าจากประเทศนอกกลุ่ม ACMECS โดยปริมาณดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับเกษตรกรในประเทศเนื่องจากมีปริมาณไม่มากและเป็นการขยายผลจากสิ่งที่ปัจจุบันมีการลักลอบดำเนินการหรือมีการลงทุนดำเนินการอยู่บ้างแล้ว ช่วยแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรกรได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนการดำเนินงาน Contract Farming ภายใต้กรอบ ACMECS จะทำให้รัฐบาลสามารถวางแผนการผลิตพืชเป้าหมายภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามหากทฤษฎีนี้มีส่วนถูกก็จะต้องดูผลกระทบทางอ้อมของโครงการว่าไทยเราในฐานะเจ้าของโครงการนี้ในกลุ่ม ACMECS จะต้องรับผิดชอบในการให้ความรู้ความเข้าใจกับเกษตรกรลูกไร่ในประเทศเพื่อนบ้าน และภายในประเทศให้มากกว่านี้ถึงผลกระทบของการเผาป่า ซึ่งความรุนแรงมันไม่คุ้มกับการที่เราจะได้ค่าส่วนต่างกับการส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐฯ ที่กำลังเจรจาภายใต้กรอบ FTA แล้วจะส่งผลต่อสุขภาพของคนภาคเหนือที่ประเมินมูลค่าไม่ได้