กบง. ถกหาแนวทางลดผลกระทบน้ำมันแพง วันนี้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน วันนี้จะมีการเสนอแนวทางลดทางลดผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง ซึ่งแนวทางที่มีการศึกษา ได้แก่ แผนการรณรงค์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งการพิจาณาบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หากที่ประชุม กบง.เห็นชอบการปรับขึ้นเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1 บาท/ลิตร จะมีผลให้ทั้งเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ปรับขึ้น 1.07 บาท โดยมีผลในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ซึ่งในวันเดียวกันราคา LPG ภาคขนส่งจะปรับขึ้นอีก 41 สตางค์ต่อลิตร และ NGV ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านคัดค้านการยุบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยให้เหตุผลว่าจะไม่มีเครื่องมือในการตรึงราคาพลังงานนั้น นายอารักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ มีการเข้าไปตรึงราคาพลังงานมากเกินไป โดยเฉพาะก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ที่ทำให้กองทุนฯขาดทุนไปแล้ว 20,000 ล้านบาท และยังมีการลักลอบไปใช้ในประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับหากเมื่อข้อตกลงเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) มีผลบังคับใช้ในปี 2558 หากไทยยังตรึงราคา LPG ด้วยการใช้กองทุนน้ำมันฯเช่นเดิม ก็จะยิ่งทำให้คนไทยไปอุดหนุนเพื่อนบ้านทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินการคือ ปรับบทบาทกองทุนน้ำมันไปเป็นกองทุนสำรองน้ำมันแห่งชาติ จะมีหน้าที่ในการเข้าไปซื้อน้ำมันมาเก็บทั้งเพื่อความมั่นคงและช่วยสร้างเสถียรภาพด้านราคาได้ด้วย ขณะเดียวกัน จะเร่งส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงระยะยาวแก่ประเทศ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง เนื่องจากราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ว่า รัฐบาลต้องทบทวนทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ต้นทุนราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น