กมธ.ลงตรวจสอบปัญหารุกที่ดินป่าสงวน จ.ภูเก็ต

กมธ.ลงพื้นที่ตรวจสอบคดีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติโดยขายให้กลุ่มทุนต่างชาติ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่พบข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้อง เอื้อประโยชน์ในการออกเอกสารสิทธิ์ ขณะที่ปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการนัดหารือกับ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมเดินหน้าอย่างเต็มที่เพื่อให้คดีตัวอย่าง ทั้งการดำเนินคดีทั้งอาญา และ วินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงรื้อระบบตรวจสอบการครอบครองของกลุ่มทุน หรือภูเก็ตโมเดล

วันนี้ (16 มี.ค.) ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการนัดหารือกับ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิบริเวณหาดฟรีดอม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด จังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 แปลง พื้นที่ 65 ไร่ และตั้งใจจะทำคดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ทั้งการดำเนินคดีทั้งอาญา และ วินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงรื้อระบบตรวจสอบการครอบครองของกลุ่มทุน หรือภูเก็ตโมเดล

ขณะที่เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) นอกจากนี้คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา และ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบด้วยเช่นกัน โดยมีเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงตอบข้อซักถามในระหว่างการตรวจสอบพื้นที่

คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เข้าสำรวจรอบบริเวณหาดฟรีดอม ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นหาดที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ระบุ จะนำข้อมูลทั้งที่รายงานเป็นเอกสาร และจากสถานที่จริง รวมถึงการถือครองเอกสารสิทธิ์ของเอกชน ไปตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างรอบด้าน เนื่องจาก จ.ภูเก็ตมีการบุกรุกที่ดินอยู่หลายกรณี

ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ท. ระบุ ป.ป.ท.กำลังตรวจสอบสวนการออกโฉนดที่ดินแปลงนี้ และคาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้ ซึ่งเบื้องต้นมี 2 ประเด็น ก็คือ มีการขออออกเอกสารถูกต้องตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด กับมีขบวนการประทุษกรรม โดยสร้างเรื่องราวให้สอดรับกับระเบียบต่างๆที่กำหนด เพื่อให้ดูว่าการดำเนินการเพื่อครอบครองที่ดินนั้นถูกต้อง และสามารถออกเอกสารได้

ก่อนหน้านี้ไทยพีบีเอส นำเสนอประเด็นที่มีการกันพื้นที่หาดฟรีดอม ออกจากพื้นที่เขตป่าสงวน เพื่อการออกโฉนดที่ดิน ทั้งที่เป็นพื้นที่มีความลาดชันเกินร้อยละ 35 ก่อนจะมีการประกาศขายให้กับกลุ่มนายทุนชาวต่างชาติ โดยขั้นตอนของการออกเอกสารสิทธิ์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ป.ป.ท. พบความผิดปกติของเอกสาร ของผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินเดิม เพื่อแสดงสิทธิ์การครอบครอง ว่าเริ่มทำประโยชน์ช่วงปี 2510 แต่ขัดกับเอกสารของเจ้าของที่ดินใหม่ ที่ซื้อต่อมาว่าที่ดินนี้เจ้าของเดิม มีการทำประโยชน์ตั้งแต่ปี 2480 เพื่อให้เข้ากับหลักเกณฑ์การทำประโยชน์ที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497และการออกโฉนดกรณีนี้ไม่มีใบสค.1 มายืนยันการทำประโยชน์ก่อนประกาศเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงช่วงที่มีการเปิดให้คัดค้านก่อนการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ก็ไม่มีใครมายื่นคัดค้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าโฉนดที่นำมาอ้างสิทธิ์นั้นเป็นโฉนดที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งการตรวจอบความผิดเบื้องต้นมีข้าราชการระดับสูงและระดับปฏิบัติการรวม 11 คน ที่อาจร่วมกระทำความผิด ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา

วันนี้ (16 มี.ค.) นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะหารือกับนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องปัญหาการออกเอกสารสิทธิบริเวณหาดฟรีดอม จำนวน 2 แปลง พื้นที่ 65 ไร่ ที่ออกโดยมิชอบ ซึ่ง ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ระบุ ถือเป็นการทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ดังนั้นต้องเพิกถอนเอาพื้นที่กลับคืนมาให้ได้ โดยจะทำให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง

รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องใบ ภ.บ.ท.5 ซึ่งประชาชนมักเข้าใจผิดว่านำไปใช้ยืนยันสิทธิการครอบครองที่ดินได้ และการครอบครองที่ดินแบบผิดๆ เพราะคิดว่าจะใช้ออกโฉนดที่ดินได้ ซึ่งข้อมูลการตรวจสอบพื้นที่ฝั่งอันดามัน มักมีปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อทำรีสอร์ท