ครม.สัญจรใต้ : ยุทธศาสตร์ขยายฐานเสียง
คณะรัฐมนตรีสัญจร จังหวัดภาคใต้ ครั้งแรกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เลือกลงพื้นที่จังหวัดระนอง, พังงา, กระบี่, ตรัง และภูเก็ต เพราะทีมงานพรรคเพื่อไทย อ้างถึงผลการวิเคราะห์งานการบริหารและความเห็นที่พ้องกันของสมาชิกว่า รัฐบาลควรเริ่มต้นพัฒนา และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคใต้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามัน แต่เจ้าของพื้นที่ทางการเมืองกลับวิเคราะห์ถึงผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ เพื่อตอบแทนฐานเสียงการเมืองท้องถิ่น ที่หวังจะพัฒนาต่อยอดการเลือกตั้งในอนาคต
สอดคล้องกับความเห็นของนักวิชาการเชื่อว่าเหตุผลการเลือกพื้นที่ภาคใต้ คือเป้าหมายของการขยายฐานเสียงทางการเมืองจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับชาติ และน่าจะเทียบเคียงการเติบโตทางการเมืองจาก" กาฬสินธุ์ หรือ ชัยภูมิ" โมเดล ซึ่งการเมืองท้องถิ่นเป็นปัจจัยหลักให้ได้ ส.ส.ยกจังหวัด และมั่นใจว่ายุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ด้วยสมาชิก คือปัจจัยหลักของการเจาะฐานคะแนนให้พลิกมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หลังพบว่าสมาชิกองทุนฯในจังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต มากที่สุดในภาคใต้แล้ว
สำหรับวาระการประชุม ครม.สัญจร จังหวัดภูเก็ต รัฐบาลเตรียมพิจารณาอนุมัติหลักการเมกะโปรเจกต์ อาทิ การขยายถนนเพชรเกษม เป็น 4 เลน จากจังหวัดชุมพรถึงพังงา มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
การขยายรถไฟรางคู่จากอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เชื่อมต่อไปที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา และมาเชื่อมต่อกับสะพานสารสิน เพื่อการขนส่ง รวมระยะทาง 160 กิโลเมตร ด้วยงบกว่า 10,000 ล้านบาท และโครงการทำเมืองพังงาให้เป็นเมืองแห่งการศึกษาด้วยการเปิดมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตพังงา ตั้งงบไว้ 4,000 ล้านบาท และมีทุนจากที่ดินบริจาคแล้ว 300 ไร่
โครงการที่รัฐบาลวางไว้ยังสอดคล้องกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เสนอพัฒนาเมกะโปรเจกต์ด้านโลจิสติกส์ แต่คาดหวังให้ขยายถนนเพชรเกษม ไปไกลถึงจังหวัดสตูล และพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ ไปสิ้นที่สุไหงโก-ลก เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดอันดามันอย่างกว้างไกลขึ้น