วันนี้ (16 ม.ค.2559) การนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด แต่ตอนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่านางไช่ อิง เหวิน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ชนะการเลือกตั้ง ทำให้กลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน โดยการนับคะแนนผ่านไปแล้วมากกว่าร้อยละ 50 พรรคดีพีพีมีคะแนนนำสูงถึงร้อยละ 58.1 ทิ้งห่างอันดับ 2 คือนายอีริค ชู จากพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ได้คะแนนเพียงร้อยละ 32.5 ส่วนอันดับ 3 คือนายเจมส์ ซ่ง จากพรรคพีเพิ่ล เฟิร์ส ที่ได้คะแนนเพียงร้อยละ 9.4 นอกจากการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว ยังเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติอีก 113 ที่นั่งด้วย
ล่าสุด นายอีริค ชู ผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว โดยนางไช่จะรับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากนายหม่า อิง จิ่ว จากพรรคก๊กมินตั๋งที่กำลังจะหมดวาระในวันที่ 20 พ.ค.นี้
นักวิเคราะห์มองว่า เมื่อนางไช่ขึ้นทำหน้าที่เป็นผู้นำของไต้หวัน การดำเนินนโยบายความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่อาจจะเปลี่ยนไป เนื่องจากพรรคดีพีพีของนางไช่ชูนโยบายต้องการแยกตัวเป็นอิสระจากจีน และไม่ต้องการให้จีนเข้ามีบทบาทในไต้หวัน ซึ่งแตกต่างจากนโยบายของพรรคก๊กมินตั๋งอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ไต้หวันภายใต้การนำของนายหม่า อิง จิ่ว เน้นสานสัมพันธ์ทั้งด้านการค้า, การลงทุนและการท่องเที่ยวกับจีน แม้ว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไต้หวัน แต่ประชาชนบางส่วนกลับไม่พอใจ เพราะมองว่าไม่ควรให้เศรษฐกิจของไต้หวันผูกติดกับจีนมากเกินไป ซึ่งจีนอาจจะเข้ามามีบทบาทในไต้หวันมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนกลุ่มนี้หันไปเทคะแนนให้พรรคดีพีพี
ขณะเดียวกัน ชาวไต้หวันบางส่วนเกรงว่านโยบายของนางไช่ที่ไม่ต้องการสานสัมพันธ์กับจีน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไต้หวัน เนื่องจากปัจจุบันนี้จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไต้หวัน
ไช่ อิง เหวิน วัย 59 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยคอร์แนลในสหรัฐอเมริกา และปริญญาเอกจากลอนดอน สกูล ออฟ อีโคโนมิคส์ในอังกฤษ
บิดามีเชื้อสายจีนแคะและแม่ก็มีเชื้อสายของกลุ่มชาติพันธุ์ในไต้หวัน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าพื้นเพของเธอเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวไต้หวันยอมรับ นอกจากเหนือจุดยืนที่ไม่ยอมรับนโยบายจีนเดียวของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่
หลังจบการศึกษาแล้ว ไช่ อิง เหวินกลับมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่ไต้หวัน และให้คำปรึกษาด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศและนโยบายเกี่ยวกับจีนในยุคของอดีตประธานาธิบดีหลี่ เต็ง ฮุย และในยุคของอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุ่ย เปียน เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานาธิบดี
ไช่ อิง เหวิน เคยสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วเมื่อปี 2555 แต่พ่ายแพ้ให้กับนายหม่า อิง จิ่ว จากพรรคก๊กมินตั๋ง