ตำรวจเตรียมสอบปากคำผู้ต้องสงสัย “ซูโดอีเฟดรีน” ด้าน ปปส.ร่วมตรวจสอบคดียาแก้หวัดหาย
การตรวจสอบยาแก้หวัดที่หายจากโรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 300,000 เม็ด ตำรวจภูธรกมลาไสย พบว่า มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไม่น้อยกว่า 5 คน เกี่ยวข้อง และเตรียมเรียกผู้ต้องสงสัย ที่ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้รับซื้อยาแก้หวัดจากเภสัชกร มาสอบปากคำเพื่อขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการในวันพรุ่งนี้ ( 22 มี.ค.)
คดียาแก้หวัดหายจากคลังยา ของโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งย้าย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองแสนขันธุ์และโรงพยาบาลกมาลาไสย รวมทั้งเภสัชกรไปช่วยราชการที่กระทรวงสาธารณสุขแล้ว และล่าสุดวันนี้ นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งย้ายเภสัชกรชำนาญการ ของโรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลดอยหล่อ ไปช่วยราชการที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ด้วยระหว่างรอผลการตรวจสอบคดีนี้
ผลการตรวจสอบของสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ที่โรงพยาบาลฮอด มียาแก้หวัด หายไปกว่า 50,000 เม็ด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 ส่วนที่โรงพยาบาลดอยหล่อ พบว่า หัวหน้าเภสัชกรโรงพยาบาลดอยหล่อ แอบใช้ชื่อโรงพยาบาล สั่งยา จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 30,000 เม็ด และอาจมีความเชื่อมโยง กับการพบซองยาแก้ไข้หลายแสนเม็ดที่กองขยะ ในอำเภอสันกำแพง ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างติดตามเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดหรือ ปปส. ขอข้อมูลจากตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อร่วมติดตามคดียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด หายจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เกือบ 4 ล้านเม็ด ในช่วง 3 ปี และจะเริ่มเข้ามาสอบสวนคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดี ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด