นักวิเคราะห์การเมืองกัมพูชามองว่าสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เริ่มเปลี่ยนนโยบายพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ไปสู่นโยบายประชานิยมมากขึ้น ทั้งการเพิ่มอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือนและเพิ่มเงินค่าจ้างให้แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อหวังชิงคะแนนเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในปี 2561
ขณะเดียวกันพรรครัฐบาลก็พยายามจำกัดบทบาทและความเคลื่อนไหวของพรรคกู้ชาติกัมพูชาซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นำโดยนายสม รังสี
การเลือกตั้งเมื่อปี 2556 แม้ว่าพรรคซีพีพีจะชนะเลือกตั้ง แต่ก็สูญเสียที่นั่งให้พรรคกู้ชาติกัมพูชามากเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่ฝ่ายค้านมีอยู่ 30 ที่นั่ง ได้เพิ่มมาถึง 55 ที่นั่ง
ส่วนนายฮุน มณี บุตรชายคนเล็กของสมเด็จฮุนเซน วัย 33 ปี ระบุกับสำนักข่าวเอพีที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐอเมริกาว่า ในอนาคตเขาต้องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยชาวกัมพูชาจะเป็นผู้ตัดสินว่าเขาสมควรได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีการชิงอำนาจภายในครอบครัว เพื่อปูทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสืบต่อจากบิดา
"ผมภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อ ภูมิใจในทุกสิ่งที่พ่อได้ทำเพื่อประเทศกัมพูชา และปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ผมเป็นลูกพ่อ ทำให้ผมมีโอกาสหลายอย่าง" ฮุน มณีกล่าว
บุตรชายอีก 2 คนของสมเด็จฮุนเซน คือพลโทฮุน มาเนต บุตรชายคนโต วัย 38 ปีจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ของสหรัฐอเมริกาปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย สังกัดกระทรวงกลาโหม ส่วนบุตรชายคนรองคือพลจัตวา ฮุน มานิต วัย 34 ปี เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองเมื่อเดือนกันยายน 2558 ส่วนฮุน มณี เป็นแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเยาวชนกัมพูชาซึ่งมีความเชื่อมโยงกับพรรคซีพีพีซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศต่อจากสมเด็จฮุน เซน