กมธ.ปรองดอง ปชป. ประกาศลาออกหากผลักดันผลการวิจัยอย่างเร่งรัด
ความเห็นต่างในผลการศึกษาวิจัย เพื่อสร้างปรองดองในบ้านเมือง โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานนั้นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ (26 มี.ค.) คณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประชุมพิจารณาแนวทางการทำงาน และแถลงสรุปว่า กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากข้อเสนอให้มีการทบทวนผลการศึกษาวิจัยการสร้างความปรองดอง โดยสถาบันพระปกเกล้าถูกปฏิเสธ ทั้งๆ ที่มีระยะเวลาการทำงานอีกระยะหนึ่ง แต่กลับถูกเร่งรัดเข้าสู่การพิจารณา
ส่วนวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาได้เรียกประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ แต่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เตรียมเสนอเรื่องขออนุมัติจากรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระการสร้างความปรองดองในวันที่ 4 เมษายนนี้ ตามขั้นตอนข้อบังคับ และกฎหมาย รวมถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 127 ระบุไว้ว่า หากสภาผู้แทนราษฎรจะประชุมพิจารณาเรื่องอื่น นอกจากการพิจารณาร่างกฎหมาย การให้ความเห็นชอบในหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ รวมทั้งการแต่งตั้งถอนถอน และกระทู้ถามในสมัยประชุมนิติบัญญัตินั้น รัฐสภาต้องมีมติอนุมัติด้วยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งถึงจะบรรจุเรื่องนั้นให้พิจารณาได้
ขณะที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ยังคงย้ำว่าผลการวิจัยโดยสถาบันพระปกเกล้านั้นยังไม่รอบด้านจึงเห็นว่า พล.อ.สนธิ ควรทบทวน และใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอให้รอบด้านมากขึ้น โดยเฉพาะการรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกฝ่ายก่อนเสนอญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนข้อสังเกตตอนหนึ่งในหนังสือ "ลับ ลวง พราง ภาค 5" ที่ระบุว่า บรรยากาศบ้านเมืองมีสัญญาณของการนำไปสู่การปฏิวัติ ทำให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันถึงการทำงานระหว่างรัฐบาล และกองทัพ ซึ่งเป็นไปด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน จึงมั่นใจว่าไม่มีเหตุจะนำไปสู่การปฏิวัติแต่อย่างใด