ตร.กาฬสินธุ์เตรียมคุ้มกันพยานคดียาซูโดฯหายป้องกันฆ่าตัดตอน
ตำรวจภูธรอุดรธานีส่งสำนวนการสอบสวนคดียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดหายไปจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีกว่า 7.2 ล้านให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อนำไปสืบสวนหาความเชื่อมโยง ไปยังขบวนการค้ายาเสพติด
นายอังษุเกติ์ วิรุทธิ์วัฒนศักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมสำนวนคดียาแก้หวัดทั้งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนที่จะมีการประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 2 เมษายน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน และพิจารณาแต่งตั้งหน่วยงานที่จะเข้ามาร่วมสอบสวนคดีในนี้
ขณะที่ตำรวจภูธรกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์เตรียมจัดกำลังคุ้มครองเภสัชกรที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียักยอกยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนออกไปจากโรงพยาบาลกมลาไสยกว่า 3.5 แสนเม็ด หากมีการร้องขอ เพื่อป้องกันการถูกตัดตอนจากเครือข่ายค้ายาเสพติด
พ.ต.อ.สุเทพ ประภากรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทองแสนขัน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายขจร วินัยพาณิช รองสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายธีรพงษ์ เอี่ยมอ่อน เภสัชกร 7 ประจำโรงพยาบาลทองแสนขันลักลอบสั่งซื้อยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมสารซูโดอีเฟดรีนในนามโรงพยาบาล
ล่าสุดวันนี้ได้ส่งเรื่องดังกล่าวถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.จังหวัดพิษณุโลกแล้ว เบื้องต้นทราบว่าจะมีการรวบรวมกรณีที่คล้ายกันในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ให้เป็นคดีเดียว ก่อนจะรวมรวมสำนวนการสอบสวนส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังเข้าพบ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เกี่ยวกับความคืบหน้าในการสอบสวนคดีซูโดอีเฟดรีนว่า ขณะนี้ได้ทราบรายละเอียดของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และได้มีการติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด คาดว่าจะได้ความชัดเจนเบื้องต้นภายในเดือนเมษายนนี้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อคดี
นอกจากนี้ ยังได้ข้อสรุปให้เพิ่มเติมฐานความผิดในพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เพิ่มอีก 9 ฐานความผิด ซึ่งรวมถึงยา อาหาร เครื่องสำอาง และวัตถุออกฤทธิ์ทางประสาท จากเดิมกำหนดไว้ 27 ฐานความผิด ส่งผลให้คดีซูโดอีเฟดรีนจะเป็นคดีพิเศษ โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการคดีพิเศษทันที