อุตุฯ เชื่อ ปาข่าไม่กระทบไทย
พายุฤดูร้อนที่พัดกระหน่ำเข้าชายฝั่ง ในอำเภอทับสะแก, อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างความเสียหายกับบ้านเรือนชาวประมงที่ปลูกสร้างริมชายฝั่ง ทั้งหมดจำนวน 123 หลัง นอกจากนี้ยังมีเรือประมงชายฝั่งซึ่งเป็นเรือไดหมึก ถูกน้ำทะเลซัดจมจำนวน 26 ลำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาวประมง อำเภอบางสะพาน ส่วนที่เหลือยังไม่สามารถนำกลับเข้าชายฝั่งได้
นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ที่อำเภอทับสะแก จำนวน 45 หลัง เรือประมงเสียหาย 5 ลำ กู้ขึ้นมาได้ 3 ลำ ส่วนอำเภอบางสะพาน และบางสะพานน้อย มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวน 79 หลัง เรือประมงได้รับความเสียหายทั้ง 21 ลำ และยังไม่สามารถกู้ขึ้นจากทะเลได้ เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ส่วนที่จังหวัดจันทบุรี เกิดลมกรรโชคแรงในพื้นที่อำเภอท่าใหม่ ส่งผลให้ต้นทุเรียนในสวนหักโค่นกว่า 200 ต้น ผลผลิตที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้รับความเสียหายเกือบ 300 ตัน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 70 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนในพื้นที่ อำเภอนายายอาม ถูกแรงลมพัดหลังคาได้รับความเสียหายอีกกว่า 10 หลังคาเรือน นายทวีศักดิ์ อร่ามชาย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลทุ่งเบญจา เปิดเผยหลังจากได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายว่า ได้เตรียมนำข้อมูลรายงานต่อทางอำเภอ และจังหวัด พร้อมประสานขอรับการสนับสนุนงบภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อมาช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
ส่วนที่จังหวัดระยอง นายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของร้านอาหารบริเวณชายหาดพลา ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ตลอดแนวชายหาดล้มทับร้านค้าบริเวณชายหาดได้รับความเสียหายหลายร้าน รวมไปถึงศาลากลุ่มประมงเรือเล็กที่ได้รับความเสียหายด้วย โดยกำลังเจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายต้นสนที่หักโค่นออกไปจากพื้นที่ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าได้ซ่อมแซม ร้านค้าที่เสียหาย ส่วนที่บริเวณชายหาดพยูน ชาวบ้านต้องไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 10 ห้อง หลังจากที่ลมที่พัดอย่างรุนแรง ได้พัดหลังคากระเบื้องปลิวเสียหายหมด เจ้าหน้าที่ต้องขนย้ายทรัพย์สินที่เหลือไปไว้ยังศูนย์อพยพ เพื่อเตรียมเข้าซ่อมแซมบ้านให้เร็วที่สุด
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุโซนร้อนปาข่า ที่ขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามแล้ว จะอ่อนกำลังลงเป็นลำดับ โดยไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบลักษณะอากาศในประเทศไทย