วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.30 น. ตัวแทนประมงพื้นบ้าน เดินทางไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านรมว.เกษตรและสหกรณ์ ขอให้ยกเลิกมาตรา 34 ในพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ซึ่งระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ได้รับทำการประมงพื้นบ้าน ทำการประมงในเลขทะเลนอกชายฝั่ง” ทำให้กลุ่มประมงพื้นบ้าน ถูกจัดพื้นที่ให้จับสัตว์น้ำได้เฉพาะระยะทางจำกัดไม่เกิน 3 ไมล์ทะเล
โดยตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน ในนามสมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้าน นำโดยนายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เตรียมยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้ยกเลิกมาตรา 34 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 โดยก่อนการยื่นหนังสือ มีพล.อ.ประสาท สุขเนตร เลขานุการ รมว.เกษตร ขอหารือนอกรอบกับตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้านด้วย
นายปิยะเปิดเผยว่า เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับ มาตรา 34 พระราชกำหนดการประมง ที่ห้ามชาวประมงพื้นบ้านออกไปทำการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง โดยพระราชกำกนดฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 18 พ.ย.2558
กลุ่มประมงพื้นบ้านระบุว่า ได้ความเดือดร้อน และเป็นการจำกัดสิทธิของชาวประมงขนาดเล็กของ ประเทศไทย ที่ไม่สามารถออกทำประมงได้เกินกว่าระยะ 3 ไมล์ ทะเล จากปกติ ที่สามารถออกไปทำประมง ในระยะ 6-14 ไมล์ทะเล
ตัวแทนจากสมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านระบุด้วยว่า ปัจจุบันกลุ่มประมงพื้นบ้าน มีจำนวนประมาณร้อยละ 80 ของชาวประมงทั้งหมด และอีกร้อยละ 20 เป็นเรือประมงพาณิชย์ ดังนั้นการกำหนดมาตรา 34 จึงจำกัดสิทธิของคนกลุ่มใหญ่ที่ทำประมงพื้นบ้าน และการเรียกร้องที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ กลุ่มประมงพื้นบ้าน จำนวน 17 จังหวัด เคยยื่นเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้ว เมื่อกลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด