ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแนะ ติด GPS แทน RFID บนรถตู้โดยสาร

อาชญากรรม
6 เม.ย. 55
16:12
32
Logo Thai PBS
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแนะ ติด GPS แทน RFID บนรถตู้โดยสาร

ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วสำหรับการบังคับ ให้รถตู้โดยสารสาธารณะ ต้องติดตั้งระบบ RFID ในการจำกัดความเร็วไม่ให้เกิน 90 กม./ชม.เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ผลการตรวจสอบก็ยังพบรถตู้โดยสาร ขับขี่ด้วยความเร็ว ขณะที่ด้านมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เสนอติด GPS แทน RFID

ปัจจุบันมีรถตู้โดยสารกว่า 9,200 คัน ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ในจำนวนนี้ 3,182 คัน ทดลองติดตั้งระบบตรวจจับความเร็ว (RFID) เพื่อควบคุมความเร็วไม่ให้เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้หลายฝ่ายจะมองว่า การติดตั้งอุปกรณ์ชนิดนี้ จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะเป็นการบังคับทางอ้อมให้คนขับต้องใช้ความเร็วที่จำกัด แต่องค์กรภาคเอกชนกลับมองว่า การติดตั้งเครื่องนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด และยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเช่นเดิม

เมื่อตรวจสอบ ผลการตรวจจับความเร็ว เมื่อวันที่ 1 และ 2 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า มีรถตู้โดยสารสาธารณะถึง 69 คัน ที่แม้จะติดตั้งเครื่อง RFID ไปแล้ว แต่ยังคงใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และในขณะนั้นแม้เครื่องจะตรวจจับได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลทันทีต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสารยังคงอยู่ในความเสี่ยงจนถึงปลายทาง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจึงเสนอ ทางเลือกของการติดตั้ง GPS แทน เนื่องจากหากรถใช้ความเร็วกว่าที่กำหนด เครื่องจะส่งสัญญาณบอกคนขับทันที โอกาสที่จะลดอุบัติเหตุทำได้มากกว่า

สอดคล้องกับความเห็นของคณะทำงานเกี่ยวเนื่องด้านสาธารณสุขและคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ต้องการให้ระงับการขึ้นทะเบียนรถตู้โดยสารสาธารณะไว้ชั่วคราว เพราะยังคงพบปัญหา ทั้งจุดจอดรถ ตัวรถที่อาจยังไม่ได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานการขนส่ง และมาตรฐานของพนักงานขับขี่

ข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ที่รวบรวมข่าวการเกิดอุบัติเหตุของรถตู้โดยสารสาธารณะ จากหนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 ถึง วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 ระยะเวลาราว 4 เดือน มีรถตู้ประสบอุบัติเหตุรุนแรงถึง 15 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 135 คน และเสียชีวิตถึง 27 คน หรือเฉลี่ย 7 คน ต่อเดือน และเพียงเดือนมกราคมเดือนเดียว มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถึง 81 ครั้ง

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มาจาก 3 สาเหตุหลัก คือ ผู้ขับขี่ขับรถอันตราย การดัดแปลงสภาพรถ และไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย หรือมีแต่ผู้โดยสารไม่ใช้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง