ภาคขนส่งชี้ต้นทุนเอ็นจีวีลดได้อีก
จากการศึกษาต้นทุนของสถาบันวิจัยพลังงานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่คำนวณราคาปลีกทั้งราคาบนแนวท่อก๊าซ และราคานอกแนวท่อก๊าซ เฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ11-14 บาทนั้น ผู้ประกอบการบางรายเห็นว่าราคาดังกล่าวยังไม่ลงลึกในรายละเอียด และสูงกว่าที่ภาคเอกชนประเมินไว้ โดยราคาที่เหมาะสมคือกิโลกรัมละ 10 บาท 50 สตางค์
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการแยกราคาเอ็นจีวีเป็น 2 ราคา แต่ต้นทุนหลายส่วนยังสามารถลดลงได้อีก เช่น การก่อสร้างสถานีแม่แห่งใหม่ ที่มีต้นทุนเพียง 69 สตางค์ต่อกิโลกรัม แต่ผลการวิจัยราคาเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 1 บาท
นอกจากนี้ การสร้างแนวท่อก๊าซเพิ่ม และแยกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเนื้อก๊าซ ก็สามารถช่วยลดราคาก๊าซได้อีก ทั้งนี้สิ่งจำเป็นที่สุดคือ การขยายสถานีบริการปัจจุบันให้เพียงพอ ซึ่งหากราคาก๊าซปรับขึ้นจริง แต่สามารถเพิ่มสถานีบริการโดยให้ภาคเอกชนเข้าไปทำ แทนการผูกขาดของบริษัท ปตท.ผู้ประกอบการก็สามารถรับได้
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยืนยันที่จะใช้ราคาก๊าซจากผลการศึกษาครั้งนี้ ก็จำเป็นต้องหารือกับภาคเอกชนอีกครั้งก่อนที่จะมีการปรับราคาเอ็นจีวีในเดือนพฤษภาคมนี้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายในสิ้นเดือนนี้จะได้ข้อสรุปการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะราคาแอลพีจี และเอ็นจีวี หลังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ศึกษาแล้วเสร็จ ส่วนจะมีการขึ้นราคาแอลพีจี และเอ็นจีวี อีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้หรือไม่ จำเป็นต้องรอผลการศึกษาทั้งหมดก่อน