ชาวสิงห์บุรีเรียกร้องแก้ไขปัญหาสันดอนทรายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 
เรือของกรมเจ้าท่าเร่งดูดสันดอนทรายขนาดใหญ่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดกระดังงาบุษผาราม ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น ชาวบ้านตำบลบางกระบือเชื่อว่าการขุดลอกสันดอนทรายกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะจะสามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น แต่เวลาผ่านมากว่า 4 เดือน เรือกลับดูดทรายย้ายมาอีกฝั่งน้ำ ซึ่งทำให้ทรายไหลกลับลงไปในแม่น้ำอีก ชาวบ้านจึงเห็นว่าการขุดลอกแบบนี้จะไม่ได้ผล
การเคลื่อนย้ายสันดอนทรายขนาดใหญ่ด้วยเรือดูดทรายเพียง 1 ลำ ทำให้ชาวบ้านตำบลบางกระบือ คาดการณ์ว่าปีนี้พวกเขาอาจจะต้องถูกน้ำท่วมอีกครั้งเพราะแม่น้ำเจ้าพระยายังคงตื้นเขิน ขณะที่ รศ.เสรี ศุภราทิตย์ กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ กยน.ได้ลงสำรวจปัญหาสันดอนทราย และวิเคราะห์ว่าการดูดทรายมากองไว้ริมตลิ่งเป็นการใช้งบประมาณที่สิ้นเปลือง เพราะเมื่อถึงช่วงฤดูน้ำหลากจะทำให้ทรายเหล่านี้ไหลกลับไปยังที่เดิม
แต่นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า อธิบายว่าเรือเจ้าท่า 227 ที่ปฏิบัติงานอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดกระดังงาบุษผารามนั้น เป็นการทำงานตามหน้าที่เพื่อเพิ่มพื้นที่ร่องน้ำให้เรือสามารถใช้สัญจรได้ แต่เตรียมที่จะใช้งบประมาณประจำปี 344 ล้านบาท ขุดลอกสันดอนทรายกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อรับมืออุทกภัย โดยงบประมาณนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล
ส่วนรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 144 ล้านบาท ให้กรมเจ้าท่าขุดลอกสันดอนทรายบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้เร็วขึ้น ตามแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนการขุดลอกสันดอนทรายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ใต้เขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทลงมา ขณะนี้ได้สรรหาผู้ประกอบการที่จะมาทำหน้าที่ได้แล้ว 3 ช่วง เหลือเพียงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง คือ ตั้งแต่อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ถึงอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ที่ยังอยู่ในช่วงหาบริษัทเอกชนมาดำเนินการ เพราะมีสันดอนทรายมีขนาดใหญ่อยู่กลางแม่น้ำ แต่คาดว่าโครงการทั้งหมดจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนหน้า