ชาวเนปาลอพยพออกจากกรุงกาฐมาณฑุหนีภัยแผ่นดินไหว
ประชาชนหลายพันคนพากันอพยพออกจากกรุงกาฐมาณฑุ หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกระแสข่าวลือว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นอีกและมีโรคระบาดร้ายแรงตามมา โดยผู้คนที่พากันหนีออกจากเมืองส่วนใหญ่กล่าวว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยและต้องการเดินทางกลับบ้านเกิด ขณะที่บริษัททัวร์และผู้ให้บริการรถขนส่งต่างเรียกค่าบริการที่แพงลิบเพื่อนำคนออกจากเมืองด้วยรถที่แน่นขนัดไปด้วยผู้โดยสาร
ทีมกู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตตามซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่ลงทุกขณะ เนื่องจากผ่านพ้นแผ่นดินไหวมาแล้ว 3 วัน ขณะที่รัฐบาลเนปาลต้องเผชิญกระแสความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังผู้ประสบภัยร้องเรียนว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ
ส่วนนักปีนเขาชาวต่างชาติและคนนำทางชาวเนปาลที่ยังติดค้างอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ที่เกิดหิมะถล่มจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้รับการช่วยเหลือออกมาเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.2558) หลังสภาพอากาศปลอดโปร่ง ทำให้ทีมกู้ภัยสามารถนำเฮลิปเตอร์เข้าไปในพื้นที่ได้
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเนปาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดและคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 5,000 คน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการขณะนี้อยู่ที่ 3,954 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7,000 คน ขณะที่กองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ เปิดเผยว่า มีเด็กในเนปาลเกือบ 1,000,000 คน ต้องการความช่วยเหลือจำเป็นอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่ออันตรายมากที่สุด
สถานการณ์เลวร้ายในพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหวจากการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่มและอันตรายจากโรคระบาด ทำให้รัฐบาลเนปาลต้องร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติ ล่าสุดความช่วยเหลือจากนานาชาติ รวมทั้งจากฝรั่งเศส เยอรมนี สเปนและจีน เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในกรุงกาฐมาณฑุแล้ว
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นยังทำให้เกิดวิกฤตเชื้อเพลิงขาดแคลนในกรุงกาฐมาณฑุ ทั้งน้ำมันดีเซลและเบนซิน เนื่องจากปั้มน้ำมันส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ทำให้ปั้มน้ำมันที่ยังเปิดบริการได้เพียงไม่กี่แห่งแน่นขนัดไปด้วยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มารอเติมน้ำมัน