รมว.คลังยัน
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพื่อวิเคราะห์ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง หลังพบปัญหาที่กลไกโครงสร้างราคาสินค้ามีความผิดปกติ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง แถลงร่วมกับ รมว.พาณิชย์ และ เลขาธิการคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยยอมรับในข้อมูลราคาสินค้าขยับตัวสูงขึ้นอ้างถึงปัจจัยจากการเกิดอุทกภัย และ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ราคาสินค้าเริ่มลดลงแล้ว ขณะที่รัฐบาลยังดูแลอัตราเงินเฟ้อได้เพราะยังอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ ระหว่างร้อยละ 2-3.5 ซึ่งในรอบ 4 เดือนแรก อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 3.2
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ( 1 พ.ค.) มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เกี่ยวกับการเดินทาง หรือ รถเมล์ฟรี และ รถไฟฟรี ออกไปอีก 5 เดือน จากเดิมครบกำหนดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เป็นสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยรัฐบาลต้องชดเชยให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นงบประมาณ 2,000 ล้านบาท
ขณะที่กรุงเทพโพลสอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ 63 คน จาก 26 องค์กร ที่ประเมินผลการบริหารงานด้านเศรษฐกิจในรอบ 9 เดือนของรัฐบาล โดยนักเศรษฐศาสตร์ให้คะแนนการบริหารงานเฉลี่ยที่ 3.83 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งคะแนนที่ได้ต่ำสุดคือการแก้ปัญหาและดูแลเสถียรภาพของราคาสินค้า และ การบริหารจัดการราคาพลังงาน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าที่ตลาดสด เพื่อยืนยันว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงนี้ ส่วนใหญ่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคา โดยราคาสินค้าที่แพงขึ้นในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นผักและผลไม้ ที่ได้รับผลกระทบจากช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมี ต้นหอม เห็ดฟาง แตงกวา ที่มีราคาสูงขึ้นด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแลราคาสินค้าให้ปรับราคาขึ้นลงตามกลไกตลาด มีราคาเหมาะสมตามโครงสร้างราคาสินค้า