กรมส่งออกฯย้ำไตรมาส 2-4 ตัวเลขการค้าจะดีขึ้นเป็นลำดับ เผยรัฐออกมาตรการหนุนผู้ประกอบการเต็มสูบ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า จากยอดส่งออก เดือนมีนาคม 2555 ที่ขาดดุลการค้าสูงสุด เป็นเพราะมีการนำเข้าสูงในทุกกลุ่มสินค้าเพื่อมาทดแทนจากความเสียหายน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 โดยเฉพาะเชื้อเพลิง เพิ่ม 68.3% และทองคำมีการนำเข้าปริมาณ 40.99 ตัน เพิ่มขึ้น 109.4% คิดเป็นมูลค่า 2,194.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 234.6% ขณะที่สินค้าทุน เพิ่ม 17.8% เฉพาะเครื่องจักร เพิ่ม 42.24% สินค้าวัตถุดิบ เพิ่ม 17.6% สินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่ม 6.8% และยานพาหนะ เพิ่ม 26.9% เฉพาะประเภทรถยนต์นั่ง เพิ่ม 11.97% ขณะที่การส่งออกลดลงทั้งกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ลดลง 21.3% โดยตลาดส่งออกติดลบทุกตลาดหลักลดลง 4.7% ตลาดศักยภาพ ติดลบ 6% ตลาดอื่นๆ ลดลง 51.3%
“จากการหารือกับผู้ประกอบการเชื่อว่าการส่งออกในไตรมาส 2 ปีนี้ (เมษายน-มิถุนายน)จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและจะดีขึ้นเป็นลำดับในไตรมาสที่ 3 - 4 เนื่องจากการฟื้นฟูโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมปลายปีที่ผ่านมากลับมาผลิตได้เต็มศักยภาพ และมั่นใจว่าเมื่อภาคการผลิตทั้งระบบทุกหมวดสินค้ากลับมาผลิตตามที่ผู้ประกอบการยืนยันก็จะสามารถผลิตได้เต็มที่ พร้อมทยอยส่งสินค้าออกตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น” นางนันทวัลย์ กล่าว
แม้ไตรมาสแรกส่งออกจะติดลบ หรือ ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท อาจทำให้ผู้ประกอบบางราย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)มีต้นทุนสูงขึ้นนั้น ซึ่งล่าสุดรัฐบาลได้ออกมาตรการทางการเงินและมาตรการภาษี เพื่อดูแลและเยียวยาทำให้ธุรกิจปรับตัวในวงเงินกว่า 54,000 ล้านบาท อาทิ โครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยเหลือภาคเอกชนบรรเทาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้และได้เรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ เพื่อแข่งขันในตลาดโลก
ทั้งนี้ กรมส่งเริมการส่งออกจะมีการประชุมทูตพาณิชย์เป็นช่วงเวลาที่ได้นัดหมายเป็นประจำทุกกลางปี เพื่อทบทวนแผนการส่งออกในปีนั้นๆ และรับมือกับปัจจัยใหม่ที่เข้ามากระทบ ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก สิ่งแวดล้อม การเมือง น้ำมัน เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่อาจเพิ่มเพียงเล็กน้อยบางจุด เพื่อผลักดันให้การส่งออก-นำเข้าเป็นไปตามแผนของกรมฯ โดยใช้โอกาสที่กรมฯเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าอาหาร(ไทยเฟ็กซ์ 2555) ที่ทูตพาณิชย์ได้พาผู้ซื้อชมงานและนวัตกรรมเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ซึ่งจะมีส่วนช่วยยกระดับสินค้าอาหารและธุรกิจบริการอาหารไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ครัวไทยสู่ครัวโลก”