ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ค่ายเยาวชนคนชุมชนท้องถิ่น .. ค่ายนี้ไม่ธรรมดา

3 พ.ค. 55
12:22
21
Logo Thai PBS
ค่ายเยาวชนคนชุมชนท้องถิ่น .. ค่ายนี้ไม่ธรรมดา

 ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงของการปิดเทอมฤดูร้อนของเหล่าเด็กนักเรียนทั้งหลาย เด็กบางคนอาจจะเรียนพิเศษ บางคนอาจจะเล่นอยู่กับบ้าน แต่สำหรับตัวแทนของเหล่าเด็กๆ จากตำบลสุขภาวะทั้ง 53 ศูนย์ทั่วประเทศกว่า 500 คนได้มาร่วมกันเข้าค่าย “รวมพลังเยาวชน คนชุมชนท้องถิ่น” ณ ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ที่เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน จัดทำค่ายนี้ขึ้นมา

              
ค่ายรวมพลังเยาวชนฯ เกิดขึ้นเพราะในปัจจุบันปัญหาเด็กและเยาวชนไทยได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เด็กๆ ขาดการชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องจากสังคม จึงทำให้เกิดความต้องการที่จะชี้นำแนวทางการก้าวข้ามปัญหาต่างๆ เหล่านั้นให้แก่เด็กและเยาวชน ค่ายนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเสริมสมรรถนะของเด็กและเยาวชนให้มีความสามารถในการจัดการแก้ไขปัญหา เพิ่มความเป็นผู้นำ และเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของแต่ละตำบลให้มากขึ้น
             
ในการเข้าค่ายทั้ง 6 วัน เด็กและเยาวชนทั้งหมดจะได้ร่วมกันเข้าฐานกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ที่มีมากมายถึง 24 ฐาน สำหรับฐานในแต่ละวันนั้นต่างมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นวันแรก เด็กๆ ได้ลงฐานภายในบริเวณอบต.หนองโรงและบริเวณชุมชนโดยรอบ ฐานที่น่าสนใจมีทั้งฐานภาวะผู้นำที่จะได้เรียนรู้การสร้างภาวะผู้นำเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองต่อไป หรือจะเป็นฐานจักสานเปลด้วยไม้ไผ่ที่คุณป้าอาภรณ์และคุณลุงมานัส สุขีธรรม สองสามีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่แปรเปลี่ยนการสานเสื่อกกมาเป็นการสานเปลด้วยต้นไผ่สีสุกแทน และเปลไม้ไผ่นี้เองที่กลายเป็นสินค้าที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งคู่ดีขึ้นทันตา โดยคุณลุงมานัสยังบอกว่าตอนนี้เปลไม้ไผ่เหล่านี้กำลังจะโกอินเตอร์เพราะมีออร์เดอร์สั่งซื้อมาไกลจากประเทศอังกฤษและอิสราเอล เลยทีเดียว
 
วันที่ 2 เป็นการพาเด็กๆ ไปเดินป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคี ป่านี้ได้รับรางวัล “ป่าพื้นบ้านอาหารชุมชนดีเด่นระดับเขต” เมื่อปี 2542 ที่ผ่านมา การเดินป่าครั้งนี้มีขึ้นเพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การอนุรักษ์ป่าและเข้าฐานการเรียนรู้ต่างๆ ภายในป่าเพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ว่าป่านั้นสำคัญไฉน
 
วันที่ 3 เป็นการพาเด็กๆ ไปเรียนรู้วิถีพอเพียงภายในหมู่บ้าน ออกเที่ยวดูศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ ในตำบล หรือจะไปเรียนรู้การสอนสานหมวกจากทางมะพร้าว ดูการผลิตแคบหมูไร้มัน เจมส์ จูน แคบหมูที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี หรือจะเป็นการทำดอกไม้ประดิษฐ์จากต้นปอเต่าไห้ ที่ต้นปอทั้งต้นนั้นสามารถนำมาทำประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งก้าน เปลือก ใบ ฯลฯ
 
บ๊อบ - พีรภาส ใฝ่จิต ตัวแทนเยาวชนจาก ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ได้เล่าถึงเหตุที่มาเข้าค่ายครั้งนี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า “ในตอนแรกนั้นทางที่ปรึกษาบอกผมว่ามีโครงการค่ายนี้ที่ให้เยาวชนทุกพื้นที่ได้มารวมตัวกัน อยากไปแชร์ความเห็นกับเขาไหม ผมก็ว่าน่าจะไป เพราะผมนั้นเปรียบเหมือนกับระฆังที่เยาวชนทางภาคเหนือเคาะและให้ผมมาส่งเสียงทางนี้ เพื่อเป็นตัวสะท้อนถึงบริบทที่ว่าเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร เด็กที่นั่นทำงานกันอย่างไร บางครั้งก็มาเรียกร้องถึงสิทธิ์ของพวกเขา อย่างเช่นตำบลรอบๆ ผมนั้นมีตำบลผมแค่ตำบลเดียวที่สามารถเคลื่อนงานได้ตลอด จากการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ในท้องถิ่น แต่อีก 3 ตำบลรอบๆ นั้นจัดตั้งขึ้นมาแต่ไม่มีที่ให้เด็กยืน ไม่มีกิจกรรมให้ทำตลอดปี ดังนั้นผมเลยจะเป็นคนมาสะท้อนให้เห็นว่าตอนนี้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นนะ”
 
แน่นอนว่า เมื่อมีการลงฐานการเรียนรู้ต่างๆ ในชุมชนแล้ว หากจะให้เรียนรู้แต่เพียงอย่างเดียวไม่มีการนำมาพัฒนา  ต่อยอดความคิดจากที่ได้เรียนรู้มาก็ย่อมจะไม่ใช่การเข้าค่ายเพื่อการพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน
 
ในวันที่ 4 ของการเข้าค่ายนั้นเองจึงมีการให้เด็กๆ แต่ละเครือข่ายได้ร่วมกันสรุปความคิดว่าการได้ลงฐานเรียนรู้ต่างๆ ที่ผ่านมานั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง และให้รวมกลุ่มกันคิดแผนเพื่อจะนำไปพัฒนาตำบลเครือข่ายของภูมิภาคที่ตนเองอาศัยอยู่อีกด้วย โดยที่ 1 ภูมิภาคจะมีแผนพัฒนาตำบล 1 แผน รวมแล้วค่ายเยาวชนแห่งนี้ได้เกิดแผนพัฒนาตำบลจากฝีมือเด็กๆ ทั้งสิ้น 4 แผน 4 ภูมิภาค
 
นอกจากการลงฐานการเรียนรู้ต่างๆ และการวางแผนพัฒนาตำบลแล้วนั้น การเข้าค่ายเยาวชนครั้งนี้ยังมีการเลือกตั้งสภาเด็กและเยาวชน การเลือกตั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่เหมือนกับการเลือกตั้งของผู้ใหญ่ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง สส.เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นตัวแทนของแต่ละเครือข่าย มีการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกพรรคได้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งนี้มีพรรคการเมืองที่ลงสมัครทั้งหมด 4 พรรคการเมือง ในการหาเสียงเลือกตั้งนั้นได้เปิดเวทีดีเบตให้แก่พรรคการเมืองทั้ง 4 พรรคได้หาเสียงกัน ซึ่งพรรคที่ได้รับเลือกคือพรรค “เพื่อเยาวชนนักพัฒนา” ที่มีนายปริญญา ปลื้มจิตร หรือ ปาม เป็นนายกรัฐมนตรีสภาเด็กและเยาวชนคนแรกของประเทศไทย
 
สำหรับความรู้สึกของ ปาม ที่มีต่อการได้เป็นนายกฯ สภาเด็กและเยาวชนนั้น ปาม บอกว่า ส่วนตัวรู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานนี้ เพราะเป็นคนชอบในการทำงาน ทำกิจกรรม ไม่ค่อยได้สนใจชีวิตตนเองเท่าไรนัก จะสนใจในเรื่องประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ครอบครัวไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกคนในครอบครัวเข้าใจ ตนเองก็ได้ผ่านความยากลำบาก มีประสบการณ์ในการทำกิจกรรม กิจกรรมต่างๆ ก็ผ่านมาเยอะแล้ว ได้รับรางวัลมาบ้าง ทำให้เกิดความภาคภูมิใจว่าตนยังได้รับรางวัลมาคอยการันตีว่าได้ทำอะไรให้กับชุมชน บ้านเมืองแล้วบ้าง ถึงแม้ว่าหากตนเองจะไม่มีตำแหน่งหน้าที่ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะช่วยเหลือพี่น้องเยาวชนและประเทศชาติได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง