นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนร่วมกับอัยการสูงสุด เพื่อตรวจสอบสำนวนคดียาแก้หวัดสูตรซูโดเอเฟดรีน โดยได้สรุปความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกใช้วิธีการลอยยาหรือปลอมใบสั่งยาของโรงพยาบาล โดยยาไม่ได้เข้าสู่ระบบของโรงพยาบาล ซึ่งวิธีนี้พบว่าคนกลางหรือเซลล์ยามีส่วนรู้เห็น 5 คน และโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล, โรงพยาบาลสยามราษฎร์, โรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มที่ 2 คือ ขโมยยาออกจากโรงพยาบาล และใช้วิธีการสั่งซื้อยาในชื่อของโรงพยาบาลด้วย มีผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 คน ที่พบความผิดชัดเจน คือ ที่โรงพยาบาลศูนย์จังหวัดอุดรธานี และโรงพยาบาลทองแสงขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
กลุ่มสุดท้ายอยู่ระหว่างการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงความผิดกับผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาล 5 แห่ง คือ โรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์, โรงพยาบาลหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์, โรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ, โรงพยาบาลนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลเสริมงาม จังหวัดลำปาง ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีพยานยืนยันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ จึงต้องสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
นายธาริต กล่าวอีกว่า หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ก็จะส่งสำนวนให้สำนักงานคณะกรรมการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการ ส่วนประชาชนจะออกหมายจับ ดำเนินคดีตามกฎหมาย