กระทรวงอุตสาหกรรมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หวั่นเกิดภัยแล้ง

Logo Thai PBS
กระทรวงอุตสาหกรรมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หวั่นเกิดภัยแล้ง

กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำภาคตะวันออก ป้องกันนิคมอุตสาหกรรมขาดแคลนน้ำซ้ำรอยเหตุการณ์ภัยแล้ง เมื่อปี 2548 หลังระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผย ภายหลังการตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในภาคตะวันอยู่ในช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาจเกิดภัยแล้งเหมือนในปี 2548 ได้  

ด้านนายวีรพงษ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกขณะนี้ มีแนวโน้มเหมือนปี 2548 ถ้าหากฝนไม่ตก โดยในปี 2548 สถานการณ์ภัยแล้ง รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี จนทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องหยุดผลิตเพื่อลดการใช้น้ำ และต้องสั่งซื้อน้ำจากกรุงเทพฯ ในราคาลูกบาศก์เมตรละ 200 บาท ซึ่งแต่ละวันมาบตาพุดมีความต้องการใช้น้ำวันละ 200,000 ลูกบาศก์เมตร ขณะที่ทั้งจังหวัดระยองมีความต้องการใช้น้ำอยู่ที่วันละ 600,000 ลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งในจังหวัดระยอง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 มีระดับน้ำรวม 140 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 51.1 ของความจุอ่าง ซึ่งในปี 2548 ระดับน้ำในช่วงกลางปีเหลือเพียงร้อยละ 40 ของความจุอ่าง ขณะที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ มีความจุอยู่ที่ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร วันนี้เหลือน้ำอยู่เพียงร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ ซึ่งเหลือน้อยกว่าในปี 2550 แต่ยังมากกว่าปี 2548 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีการระบายน้ำออก เพื่อเตรียมรับมือกับหน้าฝน ส่วนที่จังหวัดชลบุรี อ่างเก็บน้ำบางพระ และอ่างเก็บน้ำหนองค้อ มีน้ำอยู่ที่ 88.5 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับร้อยละ 63.8 ของความจุอ่างฯ

ส่วนการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ  ที่ระดับ 1 จะเฝ้าระวังที่ระดับน้ำ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะมีการแจ้งไปยังกรมชลประทาน บริษัทอีสวอเตอร์ เพื่อให้เตรียมดูแลการผันน้ำและฝนหลวง แต่หากน้ำลดเหลือ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเข้าสู่การเฝ้าระวังระดับ 2 คือ การขอผันน้ำจากอ่างฯที่เก็บน้ำต่างๆ ซึ่งยังพอจะเชื่อมโยงผันน้ำได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง