เรกูเลเตอร์เตรียมหารือทบทวนค่า
หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานมีมติปรับค่าเอฟที หรือ ค่าไฟฟ้าผันแปร งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ขึ้นไป 30 สตางค์ และได้นำประกาศทางเว็บไซต์เพื่อรับฟังความเห็นตามขั้นตอน พบว่า มีประชาชนร้อยละ 60 ไม่เห็นด้วยที่จะปรับขึ้นในช่วงนี้
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถึงแนวทางการทบทวน ซึ่งในระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา ปริมาณการใช้ไฟฟ้าขึ้นไปแตะระดับสูงสุดถึง 7 ครั้งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจึงอาจจะนำปัจจัยดังกล่าวมาทบทวนมติการปรับเพิ่มค่าเอฟที เพื่อลดภาระความเดือดร้อน
และในวันพรุ่งนี้ ( 10 พ.ค.) ที่ประชุมจะหารืออีกครั้งว่าจะมีการทบทวนการปรับค่าเอฟทีหรือไม่ ซึ่งหากมีมติให้ปรับลดลง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟภ. จะเป็นผู้รับภาระส่วนต่างชั่วคราว โดยการปรับค่าเอฟทีลงทุก ๆ 1 สตางค์จะทำให้ กฟภ.รับภาระไป 500 ล้านบาท
โดยการเตรียมทบทวนปรับค่าเอฟทีมีขึ้นท่ามกลางปัญหาค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงขึ้น จากราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลัก ๆ เชื่อมโยงกับราคาพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งเมื่อวานนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้มีมติชะลอการปรับราคาพลังงานทุกประเภท รวมถึงคงราคาก๊าซเอ็นจีวี และ แอลพีจี เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี