ผู้ว่าฯระยองหารือองค์กรท้องถิ่นวางมาตรการป้องกันชุมชน ที่อยู่รอบนิคมฯมาบตาพุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกหน่วยงานเข้าหารือ เพื่อวางมาตรการป้องกันชุมชุมที่อยู่รอบ ๆนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หลังประชาชนจำนวนมากยังหวาดผวากับเหตุการณ์โรงงานในนิคมระเบิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่รอบๆพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เข้าร่วมหารือกับนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อให้มีการประสานกับการนิคมอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบโรงงานที่มีการเก็บสารเคมีทั้งหมดในจังหวัดระยองเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมั่นใจกับประชาชนและชุมชน หลังเกิดเหตุการณ์ถังเก็บสารเคมีโทลูอีน ของบริษัทบีเอสที อิลาสโตเมอร์ส ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางสังเคราะห์ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระเบิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 คนบาดเจ็บกว่า 100 คน

นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองยังสั่งให้เร่งเพิ่มระบบเตือนภัยนำข่าวสารข้อมูลเผยแพร่ไปให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็ว โดยประสานกับวิทยุชุมชน และ หอกระจายข่าว เพื่อให้ข้อมูลประชาชนอย่างทั่วถึง ส่วนเรื่องสภาพ น้ำ และ อากาศ ทางกรมควบคุมมลพิษได้ส่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องตรวจสภาพอากาศ กระจายออกตรวจตามจุดต่าง ๆ แล้ว

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวเบื้องต้นจะได้รับเงินชดเชย 36 เท่าของเงินเดือนเงินปลอบขวัญอีก 1 ล้านบาท ในส่วนของพนักงานบริษัทบีเอสที อิลาสโตเมอร์ส พนักงานผู้รับเหมาได้รับรายละ 500,000 บาท ขณะที่มูลนิธิ กนอ.จะช่วยปลอบขวัญรายละ 20,000 บาทความเสียหายเบื้องต้นของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 1,700 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฏร ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในชุมชน ที่อยู่ติดกับโรงงานที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมข้อมูลการแก้ไขเสนอไปยังรัฐบาล