องค์กรพัฒนาเอกชน หนุนวิทยาเพิ่มงบ ปี 56 ตามมติบอร์ด สปสช.
ตามที่สำนักงบประมาณได้เสนองบภาพรวมปี 56 และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 พค. ที่ผ่านมา โดยตัดงบเหมาจ่ายรายหัวของ สปสช. อยู่ที่ 2,755.60 บาท ต่อคน ลดจากปีนี้ 4.9 % และ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่าจะมีการเสนอรายละเอียดงบ สปสช. ต่อคณะรัฐมนตรี อีกครั้งในวันที่ 8 พค.ที่จะถึงนี้ ต่อข่าวดังกล่าว นส.บุญยืน ศิริธรรม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผู้แทนองค์กรเอกชนด้านเกษตรกร เปิดเผยว่า บอร์ด สปสช.มีมติ เมื่อวันที่ 11 เมย. ที่ผ่านมาเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ซึ่งมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เป็นประธานได้เสนองบเหมาจ่ายรายหัวปี 56 ของ สปสช. ไว้ที่ 3,123.47 บาทต่อคน หรือเพิ่มขึ้นจากปี55 ประมาณ 7.9 % เพื่อคงสิทธิประโยชน์ และการเข้าถึงบริการของประชาชน ไม่ต่ำกว่าเดิม รวมทั้งเพื่อรองรับนโยบายเพิ่มคุณภาพของระบบ 30 บาท ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และให้เกิดความเท่าเทียมของสามกองทุน โดยงบเหมาจ่ายรายหัวที่เสนอ 3,123.47 บาทต่อคน ได้มาจากการคิดทางวิชาการดังนี้
1. รายการตามสิทธิประโยชน์เดิมเพื่อรักษาคุณภาพของการให้บริการไม่ให้ลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา และรองรับกับอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณไว้ในอัตราต่ำสุด เป็นเงิน 2,939.73 บาทต่อคนหรือเพิ่มขึ้นจากปี55 ประมาณ 1.5 %
2.เพิ่มค่าตอบแทนพิเศษให้หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขตามประกาศฉบับที่ 4,6 และ 7 เพื่อลดภาระเงินบำรุงของ รพ. เป็นเงิน 102.20 บาท ต่อคน
3.เพิ่มค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐบาลในการบรรจุพยาบาลใหม่ 3,000 อัตรา ในภาคใต้และการเพิ่มเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ขั้นต่ำ 15,000 ต่อเดือน เพิ่มค่าแรงลูกจ้างขั้นต่ำ 300บาทต่อวัน รวมเป็นเงิน 82.00 บาทต่อคน
ถ้าจะให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของ สปสช.สามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการได้เท่าเดิม เพิ่มคุณภาพการให้บริการของ รพ.ต่างๆ สร้างความเท่าเทียมของสามกองทุนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะต้องจัดงบประมาณเหมาจ่ายสนับสนุนปี 56 เป็นเงินรวม 3,123.47 บาทต่อคน หรือเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 7.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่มให้ระบบบัตรทองของ สปสช. ในปี55 นี้ประมาณ 13.8% จึงจะทำให้ระบบ 30 บาทมีคุณภาพเท่าเทียมกับกองทุนอื่นตามที่รัฐบาลหาเสียงสัญญากับประชาชนไว้
“การดูแลให้ได้งบประมาณเพียงพอเป็นหน้าที่โดยตรงของ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ที่ต้องผลักดันงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวปี 56 ตามที่บอร์ด สปสช. มีมติไว้เพราะเป็นการตั้งงบประมาณที่เป็นไปตามหลักวิชาการและสอดคล้องกับนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้แล้ว รวมทั้งรัฐบาลต้องไม่ตัดงบประมาณสนับสนุนการส่งเสริมป้องกันโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง เพราะเป็นภัยเงียบที่เป็นปัญหาของประเทศ ทำให้เกิดโรคหัวใจ ไตวาย จอประสาทตาเสื่อม และที่ผ่านมาได้เริ่มต้นทำไว้ดีอยู่แล้ว ถ้างบนี้ถูกคณะรัฐมนตรีตัดลดลง แสดงว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานสร้างสุขภาพ ป้องกันโรคตามที่ประกาศไว้” กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้แทนองค์กรเอกชน กล่าวและย้ำว่าจะติดตามดูผลการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะให้ความสำคัญกับนโยบายเพิ่มคุณภาพของระบบ 30 บาทรักษาทุกโรคจริงหรือเป็นเพียงการหาเสียง