เตรียมออกหมายเรียกเจ้าของโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ในเรือนจำนครศรีฯ
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แสดงภาพถ่ายโทรศัพท์มือถือขนาดเล็กเท่ารีโมทรถยนต์ ซึ่งตรวจยึดได้จากผู้ต้องขังในเรือนจำบางขวาง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างการเสวนา "เปิดโปงมาเฟียคุก-ค้ายานรก"
อธิบดีกรมราชทัณฑ์บอกว่า เครื่องมือสื่อสารที่ลักลอบนำไปใช้เป็นตัวการสำคัญของวงจรยาเสพติด และเป็นปัญหาที่ป้องกันได้ยาก เนื่องเทคโนโลยีมีความทันสมัย ขณะที่แนวทางป้องกันหลายเรื่องก็ติดปัญหาระบบราชการที่ล่าช้าเช่น การติดตั้งระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์ในเรือนจำ ซึ่งขณะนี้มีแค่ที่เรือนจำเขาบิน เพียงแห่งเดียว และในปีนี้จะติดตั้งอีก 6 แห่ง จากเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ
ขณะที่การตรวจสอบ ตรวจค้นเรือนจำนครศรีธรรมราช ตำรวจระบุว่า โทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ในเรือนจำนครศรีธรรมราช ตรวจสอบพบว่า 17 เครื่องมีข้อมูลการติดต่อที่เกี่ยวพันกับการค้ายาเสพติด ซึ่ง 5 เครื่องสามารถรู้ตัวเจ้าของแล้ว โดยจะแจ้งข้อหาสบคบค้ายาเสพติด จนนำไปสู่การยึดทรัพย์
ในวงเสวนายังระบุด้วยว่า การที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการ โดยเห็นแก่อำนาจเงิน สะท้อนให้เห็นว่าสวัสดิการต่างๆ ยังมีไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงเรียกร้องขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ เพื่อปรับเงินเบี้ยเสี่ยงภัยที่เคยได้รับประมาณ 1,200 เป็น 3,000 บาท รวมถึงความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เผยข้อมูลการตรวจสอบเรือนจำช่วงเดือน มกราคม-เมษายนปีนี้ พบโทรศัพท์มือถือ 3,353 เครื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่นำไปสู่การยึดทรัพย์ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 2,677 ราย เป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
