ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สภาทนายความชี้ ทหารเซ็กส์หมู่ หากข่มขืนจริงโทษสูงสุดถึง 20 ปี

16 พ.ค. 55
13:47
238
Logo Thai PBS
สภาทนายความชี้ ทหารเซ็กส์หมู่ หากข่มขืนจริงโทษสูงสุดถึง 20 ปี

จากกรณีภาพและคลิปกลุ่มชายแต่งกายคล้ายทหารมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวคนหนึ่ง แพร่กระจายทางสื่ออินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดการกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ในเรื่องความไม่เหมาะสมของผู้ที่เป็นทหารและใช้สถานที่ราชการกระทำอนาจาร รวมถึงมีผู้ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้หญิงสาวในภาพและคลิปมีลักษณะอาการคล้ายสมยอม แต่อาจมีลักษณะอาการของโรคออทิสติก จนเกิดเป็นคำถามทางกฎหมายหรือบทลงโทษต่อกรณีดังกล่าว

แนะผู้พิทักษ์ฟ้องร้องแทน หากหญิงเป็นออทิสติก

ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ไทยพีบีเอส ได้สอบถามตัวแทนจากสภาทนายความถึงเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นและมีการพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างมาก ประเด็นนี้ นายเจษฎา อนุจารี กรรมการบริหารสภาทนายความ กล่าวว่า กรณีทหารเกณฑ์กลุ่มดังกล่าวมีเพศสัมพันธ์หมู่กับหญิงสาวในพื้นที่ของกองทัพบก หากตรวจสอบและพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นออทิสติกจะต้องพิจารณาอายุว่าบรรลุนิติภาวะหรือไม่ รวมทั้งพิจารณาว่ามีคำสั่งศาลให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถหรือไม่ หากมีคำสั่งศาลดังกล่าว ก็จะต้องมีผู้พิทักษ์เป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องแทนบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือผู้อนุบาลฟ้องร้องแทนบุคคลไร้ความสามารถ

แต่หากถ้าทหารเกณฑ์และหญิงในข่าวเป็นสามีภรรยากันหรือไม่ก็ตามและมีความยินยอมพร้อมใจในการร่วมเพศ จะถือว่าไม่มีความผิด แต่จะมีความผิดเมื่อถูกบังคับขู่เข็ญหรือถูกหลอกลวง เรียกว่าเป็นการข่มขืน ซึ่งฝ่ายหญิงสามารถร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อผู้กระทำการได้ทั้งหมด โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรค1 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

สำหรับกรณีดังกล่าวซึ่งเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นหลายปีแล้ว แต่เพิ่งมีการเผยแพร่ภาพและคลิปเหตุการณ์นั้น ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีได้ เนื่องจากยังอยู่ในอายุความของกรณีการข่มขืนกระทำชำเรา นั่นคือภายในระยะเวลา 3 ปี

ใช้สถานที่ราชการ "เซ็กส์หมู่" มีความผิด

นายเจษฎา อนุจารี อธิบายการพิจารณาความผิดกรณีที่ทหารเป็นผู้กระทำความผิดว่า จะต้องใช้วินัยทางทหารและศาลทหารทำหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดคดี ซึ่งเป็นโทษอาญาเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป แต่บทลงโทษจะรุนแรงมากกว่า และการใช้สถานที่ราชการในการกระทำความผิดทางเพศก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน หากเป็นบุคคลทั่วไปก็จะมีความผิดในฐานบุกรุก ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนั้นจะมีความผิดทางวินัยของทหาร

เตือนประชาชนอย่าเผยแพร่ อาจผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ส่วนการนำภาพและคลิปการร่วมเพศหมู่มาเผยแพร่นั้น นายเจษฎา อนุจารี เผยว่ามีความผิดในฐานเผยแพร่วัตถุที่เป็นสิ่งลามก ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งผู้ที่จะได้รับโทษประกอบด้วย ผู้ที่เผยแพร่ ผู้ที่เก็บข้อมูลไว้ และผู้ที่เป็นเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่จะมีอำนาจในการจะยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งอายุความก็จะยาวกว่า โดยการฟ้องร้องในกรณีที่เผยแพร่และทำให้เกิดความอับอายนั้น จะพิจารณาได้ว่าเป็นเรื่องของการละเมิด

ซึ่งทั้งกองทัพบกและฝ่ายหญิงเองก็สามารถจะฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีได้เช่นเดียวกัน  ทั้งนี้ผู้ที่นำภาพและคลิปการร่วมเพศหมู่ทางอินเตอร์เน็ตไปส่งต่อหรือเผยแพร่ต่อ โดยเฉพาะการโพสต์หรือแชร์ทางเฟซบุ๊ก จะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนควรระวังอย่างยิ่ง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง