ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เสื้อผ้าเด็กในจีน ... ตลาดใหญ่ที่เติบโตในเชิงคุณภาพ

17 พ.ค. 55
13:15
23
Logo Thai PBS
เสื้อผ้าเด็กในจีน ... ตลาดใหญ่ที่เติบโตในเชิงคุณภาพ

 เมื่อหลายวันก่อน มีคำถามจากผู้ส่งออกไทยเข้ามาถึง “กล่องไฟฟ้า” ของผม สอบถามเกี่ยวกับตลาดเสื้อผ้าเด็กในจีนว่าเป็นเช่นไร และอธิบายถึงเหตุผลสำคัญที่ให้ความสนใจกับตลาดนี้ว่าเป็นเพราะบริษัทฯ และกิจการของเพื่อน ๆ ในวงการหลายรายพยายามจะดิ้นรน “หนีตาย” จากตลาดเสื้อผ้าเด็กในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่หดตัวลงทุกขณะ และหันมาหาเงินจากตลาดจีนที่ได้ข่าวว่าเติบโตมากกันบ้าง เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นทั้งกลยุทธ์ในเชิง “ผลัก” และ “ดึง” ไปพร้อมกัน ผมก็ได้แต่ตอบคำถามในเชิงหลักการและข้อมูลที่มีอยู่ในหัว แต่ก็รับปากว่าจะศึกษาวิจัยและหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมให้ในรายละเอียด เผื่อผู้ประกอบการไทยจะได้เข้ามาทำตลาดเสื้อผ้าเด็กในจีนกันมากยิ่งขึ้นในอนาคต

 
แม้บางคนจะไม่อาจทนกับเสียงร้องของเด็ก แต่ในเชิงธุรกิจแล้ว ทุก ๆ เสียงร้องที่ดังขึ้นคือกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเด็กทั้งสิ้น ....
 
เศรษฐกิจเด็ก ... เติบโตต่อเนื่อง
 
ยุค “เบบี้บูม” (Baby Boom) ของจีน หรืออาจเรียกว่า “Chaby Boom” เริ่มต้นเมื่อปี 2548 โดยสถาบันวิจัยของจีนแห่งหนึ่งประเมินว่า ในแต่ละปีมีเด็กทารกเกิดใหม่ราว 20 ล้านคนในจีน และมีเด็กที่มีอายุระหว่าง 0-3 ปีอยู่ประมาณ 60 ล้านคน และมีเด็กที่มีอายุระหว่าง 0-14 ปีอยู่ราว 250 ล้านคน รายงานการคาดการณ์ตลาดเด็กในจีนปี 2552-2555 (China Children Market Forecast 2009-2012 Report) ระบุว่า ทารกเกิดใหม่ของจีนเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อปี 2553 ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Bureau of Statistics) ประเมินว่า อัตราการเกิดของจีนจะพุ่งสูงสุดในปี 2559 หลายฝ่ายจึงมั่นใจว่า “เศรษฐกิจเด็ก” (Baby Economy) ในจีนจะเติบโตและดำรงอยู่ต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 15-20 ปี
 
นอกจากนี้ จากสถิติยังพบว่า ตลาดสินค้าเด็กและที่เกี่ยวข้องในจีนเริ่มเติบโตอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2543 และกำลังปรับตัวในเชิงโครงสร้างอย่างขนานใหญ่ โดยขยายตัวเฉลี่ยราวร้อยละ 30 ต่อปี การเติบโตในระยะแรกนี้ส่วนใหญ่เป็นลักษณะในเชิง “ปริมาณ” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการขั้นพื้นฐานเป็นสำคัญ ขณะที่ในระยะ 2-3 ปีหลังนี้ ตลาดฯ ขยายตัวในอัตราเฉลี่ยกว่าร้อยละ 10 ต่อปี และเปลี่ยนมาเป็นการเติบโตในเชิง “คุณภาพ” ที่มุ่งเน้นความสวยงามและภาพลักษณ์มากขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนเมืองที่อัตราการใช้จ่ายเงินของเด็กในเขตเมืองเติบโตในอัตราที่สูง และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมากในอนาคต 
 
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Bureau of Statistics) สรุปว่า เกือบร้อยละ 30 ของค่าใช้จ่ายของครอบครัวชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองถูกใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของทารกและเด็กในครอบครัว อีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ โครงสร้างการบริโภคสินค้าเด็กของจีนแตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้วมาก กล่าวคือ ขณะที่โครงสร้างของสหรัฐฯ กระจุกอยู่ที่ของเด็กเล่นในสัดส่วนร้อยละ 50 การศึกษาร้อยละ 30 และอาหาร เสื้อผ้า และอื่น ๆ อีกร้อยละ 20 ของเม็ดเงินใช้จ่ายโดยรวม แต่ของจีนสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของทั้งหมดใช้จ่ายซื้อหาสินค้าอาหารเป็นสำคัญ
 
งานวิจัยหนึ่งของ Boston Consulting Group (BCG) ก็ประเมินว่า ในปี 2554 มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมสินค้าเด็กในจีนโดยรวม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่อาหาร เสื้อผ้าสำเร็จรูป ของเด็กเล่น และสินค้าที่เกี่ยวข้องมีมูลค่าถึง 130,000 ล้านหยวน และคาดว่าในอีกหลายปีข้างหน้า ตลาดจะเติบโตในอัตราเฉลี่ยถึงปีละร้อยละ 17 ขณะที่สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในจีนประเมินว่า ตลาดเด็กและทารกในจีนที่มีอายุระหว่าง 0-12 ปี ซึ่งครอบคลุมสินค้า บริการ (การฝากครรภ์ การคลอดลูก การศึกษา และสุขภาพ) และกิจกรรมเพื่อการเจริญวัยของเด็ก คาดว่าจะมีมูลค่าราว 1.15 ล้านล้านหยวนในปี 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับของปีที่ผ่านมา ก้าวแซงสหรัฐฯ ขึ้นเป็นตลาดอันดับ 1 ของโลก และอาจจะก้าวขึ้นแตะหลัก 2 ล้านล้านหยวนได้ภายในปี 2558
 
การเปลี่ยนแปลงของสภาพปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจของจีนก็คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่ออุปสงค์ของสินค้าเด็กเล็กในอนาคต กล่าวคือ เมื่อปลายปี 2551 รัฐบาลจีนได้ประกาศทบทวนนโยบาย “ลูกคนเดียว” ที่ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 30 ปี และต่อมาได้เห็นชอบให้หนุ่มสาว “ลูกโทน” ของจีนที่แต่งงานกันสามารถมีลูกได้ 2 คน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเล็งเห็นว่า “เบบี้บูม” ยุคใหม่ของจีน  กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนเองก็หันมาให้ความสนใจกับการเพิ่ม “การบริโภคภายในประเทศ” เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แนวโน้มของตลาดเสื้อผ้าและสินค้าเด็กอื่น ๆ ในจีนจึงดูสดใสยิ่งขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญในวงการคาดการณ์กันว่า ตลาด “เศรษฐกิจเด็ก” ของจีนดังกล่าวจะขยายตัวต่อไปในอัตราที่สูงในช่วง 10 ปีข้างหน้า
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง