เชลซี ชนะจุดโทษ บาเยิร์น มิวนิค 4-3 คว้าแชมป์แชมเปี้ยนลีก
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก นัดชิงชนะเลิศที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า วานนี้ (19 พ.ค.) บาเยิร์น มิวนิค พบเชลซี โดยเกมนี้ นาที 83 บาเยิร์น มิวนิค ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากโทมัส มุลเลอร์ แต่ นาทีที่ 88 เชลซี ได้ประตูตีเสมอจากดิดิเยร์ ดร็อกบา ทำให้จบเกมเสมอกันต้องต่อเวลาพิเศษ แต่ไม่มีทีมใดทำประตูได้ ทำให้ครบ 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน ปรากฏว่าฮวน มาต้า คนแรกของเชลซียิงไม่เข้า ขณะที่คนที่ 4 และ 5 ของบาเยิร์นคือ อิวิก้า โอลิช และ บาสเตียน ชวานสไตน์เกอร์ ก็ยิงไม่เข้า ทำให้เชลซีที่ยิงไม่พลาดอีกใน 4 คนที่เหลือเอาชนะไปในการดวลจุดโทษ 4-3 ทำให้เชลซีคว้าแชมป์สมัยแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร 107 ปี
ด้านโรแบร์โต้ ดิมัตเตโอ กล่าวหลังการแข่งขันยอมรับว่าบางครั้งฟุตบอลก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ เชลซีพบกับความยากลำบากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แชมป์นี้ถือเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อของสโมสร ขณะที่ดร็อกบาบอกว่าการที่เชลซีแพ้จุดโทษแมนยูที่มอสโคเมื่อปี 2008 ถือเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดสำหรับสโมสรและแฟนบอล แต่วันนี้ทุกคนช่วยกันเปลี่ยนแปลงมันได้สำเร็จ
ด้านจุ๊ปไฮย์เกส กล่าวยอมรับว่าเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าขมขื่นสำหรับสบาเยิร์นและแฟนบอล ซึ่งเขารู้สึกผิดหวังมากที่ทีมมีโอกาสทำประตูมากมายแต่ทำไม่ได้ในนัดนี้ ขณะที่นักเตะเชลซีหลังฉลองแชมป์ที่สนามเสร็จได้เดินทางกลับถึงโรงแรมภายในเมืองมิวนิค ซึ่งมีแฟนบอลรวมถึงครอบครัวของพวกเขาคอยต้อนรับและร่วมแสดงความยินดี