ภาคีต่อต้านคอรัปชั่น เตรียมยื่นเรื่อง ป.ป.ง.สอบทรัพย์สิน ผอ.โรงเรียนต่างๆ พรุ่งนี้

ปัญหาการเรียกเงินเข้าเรียน หรือค่าแป๊ะเจี๊ยะ ที่กลายเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของผู้ปกครองมาโดยตลอด ทำให้ภาคีเครือข่ายต้านทุจริต คอร์รัปชั่น เตรียมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ง.ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินผู้อำนวยการโรงเรียน ที่มีอัตราการแข่งขันสูงในวันพรุ่งนี้

นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่อดข้าวประท้วง ปฏิเสธข้อเสนอที่ทางโรงเรียน จะเปิดรับนักเรียนเก่าเพิ่มอีก 20 ที่นั่ง โดยยังยืนยันให้รับนักเรียนเก่าทั้งหมดเข้าเรียนต่อมัธยมศึกษาปีที่4 ซึ่งผู้ปกครอง และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กว่า 30 คน ยังคงปักหลักชุมนุมเป็นวันที่ 2 โดยมีตัวแทนนักเรียน 4 คนที่อดข้าวประท้วง บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล หลังถูกตัดสิทธิ์เข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งอ้างว่าถูกแทรกแซงจากนักเรียนโรงเรียนอื่น อย่างไม่เป็นธรรมตามลำดับคะแนน และมีการเรียกเก็บเงินพิเศษเพื่อแลกกับการได้ที่นั่งเรียน คนละ 10,000-100,000 บาท

นายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ชี้แจงว่าโรงเรียนสามารถรับนักเรียนเก่าเลื่อนขึ้นชั้น ม.4 ได้เพียง 556 คนจากทั้งหมด 884 คน โดยเรียงตามลำดับคะแนนจากคะแนนสูงสุดไล่เรียงลงมา และเปิดรับด้วยวิธีการสอบอีก 150 คน รวมทั้งมีนักเรียนโควต้าเงื่อนไขพิเศษอีก 35 คน เช่น นักกีฬา หรือผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก ม.3 เดิมถึง 22 คน แต่เนื่องจากมีนักเรียนที่สละสิทธิ์ ไม่มารายงานตัวจำนวน 20 คน ทางโรงเรียนจึงจะเลือกนักเรียนเก่าลำดับถัดจาก 556คนต่อไปอีก 20 คน ขณะนี้ทางโรงเรียน และเขตพื้นที่การศึกษา ได้เตรียมจัดสรรนักเรียนที่เหลือ ไปยังโรงเรียนคู่ขนาน ได้แก่ โรงเรียนเทพลีลา โรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง และโรงเรียนบดินทรเดชา 3

ซึ่งตัวแทนผู้ปกครอง แสดงความไม่พอใจต่อคำชี้แจงของทางโรงเรียน และเรียกร้องให้โรงเรียนรับนักเรียนที่เหลือเข้าเรียนต่อทั้งหมด โดยนักเรียนที่อดข้าวประท้วง ก็พร้อมที่จะเรียกร้องต่อไปจนกว่าจะได้สิทธิ์เข้าเรียนต่อ ม.4 โรงเรียนเดิม

ด้าน รศ.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า เป็นครั้งแรกที่นักเรียนออกมาอดข้าวประท้วง และอยากให้กำลังใจนักเรียน ที่กล้าหาญเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ข้อเท็จจริง และควรพิจารณาแนวทางการระดมทุนของสถานศึกษา หลังมีการปรับลดงบประมาณที่ให้กับโรงเรียน รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนเครือข่าย หรือโรงเรียนคู่ขนานที่ยังไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ยังมีการแข่งขันสูงในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ ร่วมกับ สมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ จะยื่นเรื่องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินผู้อำนวยการโรงเรียนดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) รวมถึงผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงอีกกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งให้ตรวจสอบการใช้เงินบริจาคของสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนต่างๆ ที่อาจเข้าข่ายเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะเพื่อแรกกับที่นั่งเรียน