การแข่งขันฟุตบอลโคป้าเดอเรย์ รอบชิงชนะเลิศคืนนี้ ( 25 พ.ค.) เป็นการพบกันระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ แอตเลติก บิลเบา ที่สนาม บินเซนเต้ กัลเดร่อน เกมนี้จะเป็นนัดสุดท้ายในการคุมทีมบาร์เซโลน่าของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลังจากที่ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะขอวางมือหลังจากจบฤดูกาล
โดย บาร์โซโลน่า รองแชมป์ลาลีก้า ไม่มีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บนอกจาก ดาบิด บีญ่า ที่ขาหัก และ เอริก อบิดัล ที่ไปผ่าตัดเปลี่ยนตับ ซึ่งความพร้อมของทีม ในแนวรับจะมี คาเรส ปูโยล ยืนเป็นเซนเตอร์ ส่วนกองกลางมีตัวหลักครบไม่ว่าจะเป็น อันเดรียส อิเนสต้า, ซาบี้ เออร์นานเดส และ เซอร์คิโอ้ บุสเกส ส่วนในแนวรุก น่าจะเป็น เปโดร โรดิเกวส, ลีโอเนล เมสซี่ และ เชส ฟาเบรกลาส
ส่วนทีม บิลเบา ของ มาเซโล่ บิเอลซ่า โค้ชชาวอาร์เจนติน่าเพิ่งจะผิดหวังจากการแข่งขันฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิศ หลังจากแพ้ให้กับ แอตเลติโก้ มาดริด 3-0 เกมนี้ ไม่มีปัญหาผู้เล่นตัวจริงบาดเจ็บ โดยผู้รักษาประตูจะเป็น กอร์ก้า อิไลซอส, ส่วนกองหน้า จะเป็น เฟอร์นานโด ยอร์เรนเต้ และ อิเกร์ มูนัวอิน สำหรับการพบกันมาทั้ง 2 นัดในฟุตบอล ลาลีก้า ฤดูกาลนี้ บาร์เซโลน่า ชนะ 1 นัด และเสมอกันไปอีก 1 นัด
ด้านสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา ประกาศเตรียมทดสอบใช้เทคโนโลยี โกลไลน์ เป็นครั้งแรก ในเกมฟุตบอลอุ่นเครื่อง ระหว่างทีมชาติอังกฤษ และ ทีมชาติเบลเยียม ที่สนามเวมบลีย์ ในวันเสาร์ที่ 2 มิ.ย.นี้ โดยเกมนัดดังกล่าว ฟีฟาจะนำเทคโนโลยี โกล์-ไลน์ มาใช้ตัดสินจังหวะทำประตูในเกม แต่จะยังไม่มีการส่งสัญญาณไปยังผู้ตัดสินเพื่อใช้ในการตัดสินจริงเนื่องจากเทคโนโลยีนี้ยังไม่ผ่านการรับรองจากฟีฟ่า
ทั้งนี้หากการใช้เทคโนโลยีโกลไลน์ ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดีทาง ฟีฟา จะนำมาใช้อย่างเป็นทางการในเกมการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกวันที่ 2 ก.ค.นี้ หลังประสบความสำเร็จในการทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าวมาแล้วก่อนหน้า ในเกมแฮมเชียร์ เอฟเอซีเนียร์ คัพ ที่สนามเซนต์แมรีส์สเตเดียม วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา