เจ้าของ "มินิฯสีแดง" เลื่อนมอบตัวหลานชาย ส่งทนายเข้าพบตำรวจ

เจ้าของรถยนต์มินิคูเปอร์ ส่งทนายความ เข้าพบตำรวจ และขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ในฐานะเจ้าของรถ โดยบอกจะนำตัวเยาวชนที่ขับรถในวันเกิดเหตุมาพบด้วย หลังถูกออกหมายเรียกครั้งแรก พร้อมยืนยันรับผิดชอบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด

ทนายความของนางหงส์ แซ่ลี้ เจ้าของรถยนต์มินิคูเปอร์ ที่อนุญาตให้หลานชายซึ่งเป็นเยาวชนขับขี่ จนเกิดเหตุเฉี่ยวชนนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัน พร้อมเพื่อน บนสะพานพระราม 9 ขาออก ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวม 4 คน เข้าพบตำรวจ และขอเลื่อนการให้ปากคำตามหมายเรียกครั้งแรก

สำหรับเหตุผลในการขอเลื่อน ทนายความบอกว่า ทั้ง 2 คนยังอยู่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะเยาวชนที่ยังมีอาการเครียดและเก็บตัว ส่วนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทนายความ ยืนยันว่า เจ้าของรถยินดีชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งหมด และก่อนหน้านี้ ตนเองได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บบางส่วนแล้ว

ด้านพันตำรวจโทณัฐพล บอกว่าวันนี้(28พ.ค.) เป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 โดยเชื่อว่า ทั้ง คู่ไม่มีเจตนาหลบหนี หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตการณ์ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และรอสอบปากคำเยาวชน รวมถึงเจ้าของรถ เพื่อตรวจสอบ ว่าเข่าข่ายคดีใดบ้าง เช่นไม่มีใบขับขี่รถเนื่องจากเป็นเยาวชน หรือการดำเนินคดีกับเจ้าของรถ โดยเบื้องต้น จะแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลบหนี มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับเยาวชนที่ขับรถ ในวันเกิดเหตุ มีอายุไม่ถึง 18 ปี ซึ่งตำรวจจะยึดวันที่กระทำผิดเกณฑ์พิจารณา ประเด็นการไม่มีใบอนุญาต ต้องรอตรวจสอบ อีกครั้ง ขณะที่อาการนางสาวโชติกา ประสาทโสพันธ์ 1 ใน 4 ผู้บาดเจ็บที่อาการหนักที่สุด ขนะนี้แพทย์โรงพยาบาลทหารเรือ แพทย์ยังเฝ้าระวังอาการในห้องไอซียู หลังแพทย์ฝ่าตัดสมองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา