ก.พลังงานระดมความเห็นปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ครั้งที่ 3
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงานระดมความเห็นเพื่อปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ครั้งที่ 3 หลังจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยจะปรับเพิ่มการใช้ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น แต่จะทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 บาท
ในงานสัมมนาระดมความคิดเห็นเรื่อง "การปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย" พ.ศ.2553-2573 หรือ พีดีพี 2010 ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กำหนดเป้าหมายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนจากร้อยละ 12 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 25 ภายในปี 2564 และลดการใช้พลังงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 25 ภายในปี 2573
นอกจากนี้ การปรับปรุงแผนยังเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้าที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล เช่น การพัฒนาระบบรางเพื่อขนส่งมวลชน รวมถึงการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยจะเห็นว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ขึ้นไปแตะระดับสูงสุด
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการนโยบายและแผนพลังงาน กล่าวว่า หากเป็นไปตามแผน พีดีพี จะมีผลกระทบต่อการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ หน่วยละ 10 สตางค์ แต่ค่าเชื้อเพลิงจะแปรผันตามราคาพลังงานในอนาคต ซึ่งหากคิดราคาในปัจจุบันจะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอีก 1.04 บาทต่อหน่วย หรือรวมกับค่าไฟฐานเป็น 4 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3 บาทต่อลิตร
แผนพีดีพี ฉบับนี้ ยังเลื่อนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออกไปอีก 3 ปี จากปี 2566 เป็นปี 2569 โดยเพิ่มโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 15 โรง และจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ หรือ ไอพีพี อีก 6 โรง รวมถึงลดโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด เหลือ 4 โรง
ด้านนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า หลังจากการปรับปรุงแผน พีดีพี ได้ข้อสรุป จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาดูแลแผนโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ และจะต้องดูการจัดหาก๊าซธรรมชาติ ในราคาต่ำ โดยจะให้ ปตท. เป็นจัดหาก๊าซฯ ในระยะยาว รวมถึงการจัดหาก๊าซจากแหล่งอื่นๆ เช่น ในพม่า กัมพูชา