น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ยังน่าเป็นห่วง-ชาวบ้านใน จ.ระนอง ไม่วางใจไว้สถานการณ์
ชาวบ้านในตลาดเทศบาลตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เร่งทำความสะอาดบ้านหลังเกิดน้ำป่าไหลหลากจนทำให้บ้านเรือนเขตเทศบาลตำบลน้ำจืดถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายหลายหลัง แต่ว่าบ้านเรือนหลายหลังยังคงมีน้ำท่วมขัง รวมถึงถนนกิจบำรุง ที่อยู่ในเขตเทศบาลยังคงมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งชาวบ้านส่วนหนึ่งได้นำอิฐบล็อกและกระสอบทรายมาสร้างแนวพนังกั้นน้ำบริเวณหน้าบ้านเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมตัวบ้าน และ ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
ส่วนที่ตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมสะพานที่เชื่อมระหว่างบ้านทองหลาง หมู่ 3 และบ้านทรัพย์สมบูรณ์ หมู่ 8 หลังจากถูกน้ำป่าจากเทือกเขาแดงไหลลงมาพัดสะพานพังเมื่อ 2 วันก่อนทำให้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านไม่สามารถเดินทางไปมาหากันได้
ขณะที่ฝนที่ยังตกหนักในจังหวัดระนองทำให้เจ้าที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ และ เตรียมพร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปในที่ปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์น้ำป่าและโคลนถล่ม ขณะที่น้ำจากพื้นที่จังหวัดระนองระบายลงสู่พื้นที่ต่ำผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานีทำให้วันนี้ ( 7 มิ.ย.) พื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ อำเภอวิภาวดี ขณะนี้เกิดน้ำท่วมแล้วในบ้างพื้นที่และในพื้นที่อำเภอคีรีรัฐนิคม รวมบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมแล้วขณะนี้กว่า 300 หลังคาเรือน นอกจากนี้บริเวณเชิงเขาบางจุดได้รับแจ้งว่าเกิดดินสไลด์ แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญหาย
เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัย คาดว่า อีก 1-2 วันนี้น้ำจะไหลผ่านอำเภอไชยยาและอำเภอท่าชนะ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำก่อนน้ำจะไหลผ่านลงสู่ทะเล เจ้าหน้าที่จึงต้องคอยเฝ้าระวังและเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเจ้าหน้าที่กองทัพภาคที่ 4 บินสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยในอำเภอนบพิตำ ที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปสำรวจได้ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากอากาศแปรปรวน การสำรวจพื้นที่พบว่าพื้นที่ป่าบริเวณตำบลนพพิตำพื้นที่ถูกบุกรุกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
ขณะที่จังหวัดชุมพรระดับน้ำที่ท่วมขังเริ่มลดลงหลังจากที่ฝนหยุดตกนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เข้าสำรวจพื้นที่ผู้ประสบภัยบริเวณหมู่ที่ 4 บ้านดอนแค ตำบลตากแดด อำเภอเมือง ที่เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากพร้อมกับนำเครื่องอุปโภคบริโภคและแพทย์เข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย แม้ว่าระดับที่ท่วมขังมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ( 6 มิ.ย.) เริ่มลดลง แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
เช่นเดียวกับที่จังหวัดพังงา น้ำป่าที่ไหลหลากจากที่สูงเข้าท่วมบริเวณถนนภายในเขตเทศบาลเมืองพังงา ทำให้ประชาชนต้องสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก เนื่องจากน้ำระบายลงสู่ท่อน้ำไม่ทัน ส่วนในตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ที่อยู่ติดกับริมคลองน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนแล้วบางส่วน
ขณะที่จังหวัดกระบี่ระดับน้ำป่าที่ไหลหลากในลำคลองกระบี่ใหญ่ เทศบาลเมืองกระบี่ และ ในพื้นที่ ติดลำคลอง หมู่ 7 และหมู่ 8 ตำบลทับปริก อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากระดับน้ำทะเลลดลง ขณะที่บริเวณน้ำตกร้อน ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อมระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากน้ำจากลำคลองทุกสายไหลเข้าไปรวมเพื่อระบายลงสู่ที่ที่ต่ำ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีน้ำไหลลงมาสมทบและไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ส่วนที่จังหวัดสตูลชาวประมงพื้นบ้านตำบลเจ๊ะบิลัง และชาวประมงตำบลเกาะสาหร่าย ต้องนำเรือประมงขนาดเล็กขึ้นจอดบนฝั่ง เพื่อหลบคลื่นลมที่มีกำลังแรง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เตือนชาวประมงเรือขนาดเล็กห้ามออกจากฝั่งในระยะนี้ เพราะอาจจะได้รับอันตรายได้
ส่วนที่เมืองพัทยาอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงทำให้มีน้ำท่วมขังบนถนนในเส้นทางสายต่างๆ เขตเมืองพัทยา และบริเวณย่านตลาดนาเกลือ บางจุดมีระดับน้ำท่วมขังสูง จนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำเครื่องสูบน้ำ มาสูบระบายน้ำที่ท่วมขังออก