แผนสันติภาพที่บังคับใช้กับซีเรียไม่คืบหน้า ยูเอ็นเดินหน้าเพิ่มแรงกดดัน
นายโคฟี่ อันนัน ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นที่ดูแลแผนการสันติภาพในซีเรีย ได้แจ้งต่อที่ประชุมยูเอ็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเพิ่มแรงกดดันต่อนายบาชาร์ อัล อัสซาด ประธานาธิบดีของซีเรีย หากว่าเขายังไม่ยอมปฏิบัติตามแผนการสันติภาพ 6 ขั้น อย่างไรก็ดีแผนการดังกล่าวเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีผลในทางปฏิบัติ ในทางกลับกันสถานการณ์ความรุนแรงกลับยิ่งเลวร้ายมากขึ้น ทั้งนี้นายอันนันได้เปิดเผยถึงการดึงประเทศอื่นๆ เข้ามาร่วมหาทางแก้ไขวิกฤตในซีเรีย กลุ่มใหม่ที่ได้ทาบทามไว้ประกอบไปด้วยรัสเซีย,จีน,สหรัฐ,อังกฤษ,ฝรั่งเศสและประเทศที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาลซีเรียและฝ่ายตรงข้ามอย่างอิหร่าน โดยนักการทูตจากชาติตะวันตกระบุว่าประเทศที่มีอิทธิพลต่อซีเรียได้แก่ซาอุดิอาระเบีย,กาต้าร์และตุรกี
แม้ว่าจีนจะประสานเสียงกับประชาคมโลกประณามการสังหารหมู่ในซีเรีย แต่ก็ยังประกาศจุดยืนเดิมคือไม่เห็นด้วยกับการเปิดทางให้กองกำลังต่างชาติเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ในซีเรีย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่ารัฐบาลจีนขอประณามการเข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดร้ายในการสังหารหมู่ที่ซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสังหารเด็ก และสตรี แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนข้อเรียกร้องของ นายโคฟี่ อันนัน ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นที่ต้องการให้เพิ่มแรงกดดันต่อซีเรียหรือไม่ ปรากฏว่าโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนไม่ยอมตอบคำถามนี้ แต่กลับตอบเลี่ยงไปว่าความพยายามในการสร้างสันติภาพในซีเรีย ตามแผนการของนายอันนัน มีความสำคัญยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นนายอันนันจะต้องพยายามให้มากขึ้น
ทั้งนี้จีน และรัสเซีย ซึ่งเป็นชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยังคงยึดถือจุดยืนเดิม ที่ไม่เห็นด้วยกับกดดันหรือการเปิดทางให้กองกำลังนานาชาติเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ในซีเรีย
ส่วนนี่คือกลุ่มน้กร้องที่รู้จักกันในชื่อว่า "ผู้ขับขานแห่งการปฏิวัติ" เป็นกลุ่มนักร้องที่แต่งเพลงและขับร้องในการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลตามที่ต่างๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้มักจะตกเป็นเป้าโจมตีของรัฐบาล ผู้ขับขานแห่งการปฏิวัติหลายคนถูกคุมขังในเรือนจำหรือไม่ก็เสียชีวิต โดยนักร้องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือนายอิบราฮิม คัสฮูส (Ibrahim Qashoush) ผู้แต่งเพลงที่มีเนื้อหาขับไล่นายอัสซาด โดยเขาถูกสังหารด้วยการปาดคอและและศพถูกทิ้งไว้ในแม่น้ำ ซึ่งนับตั้งแต่มีการประท้วงขับไล่รัฐบาลตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว มีคนจำนวนมากที่ไม่เคยทำงานด้านดนตรีมาก่อน ได้ผันตัวเองมาเป็นผู้ขับขานแห่งการปฏิวัติ ซึ่งต่อมากลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับการประท้วง