รัฐบาลเสียงไม่พอ นำญัตติคำสั่งศาลรธน.พิจารณาในรัฐสภา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาว่า หากมีการหยิบเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาในสมัยประชุมนิติบัญญัติ ก็จะเป็นการฝ่ายมาตรา 127 อีกครั้งหนึ่งด้วย ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านจึงขอใช้สิทธิในการไม่เข้าร่วมประชุมในการพิจารณาในมติดังกล่าวได้
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคฝ่ายค้านได้เดินออกจากที่ประชุมรัฐสภาทันที หลังจากที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา วินิจฉัยที่จะให้มีการลงมติว่าคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีผลผูกพันกับรัฐสภาหรือไม่ ทั้งนี้ฝ่ยค้านเห็นว่าหากมีการพิจารณาในมติดังกล่าวจะเข้าข่ายการกระทำผิดหลักการและเข้าข่ายขัดหลักธรรมนูญ
ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.บางส่วน เห็นว่าการลงมติดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ได้เป็นผลเสียต่อรัฐสภา แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของนิติบัญญัติที่ไม่ให้องค์กรอื่นไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องได้
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดประชุมอีกครั้ง นายสมศักดิ์ได้ให้มีการลงมติว่าจะให้นำญัตติเรื่องคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันกับรัฐสภาหรือไม่ มาพิจารณา โดยผลการลงมติปรากฎว่า เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย 318 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง
ผลการลงมติรัฐสภา เห็นด้วย 318 เสียงให้นำญัตติเรื่องคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาได้ และไม่เห็นด้วย 2 เสียง แต่ตรามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 ระบุว่า ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเสียงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมเท่ากับ 322 เสียง ทำให้การลงมติดังกล่าว มีเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอที่จะให้มีการพิจารณานำญัตติเรื่องคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาได้