สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้ Body Scanner ตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศแล้ว
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศแห่งใหม่ ด้านฝั่งตะวันออก หวังเพิ่มประสิทธิภาพตรวจค้นผู้โดยสารได้สูงกว่า 3,600 คนต่อชั่วโมง
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดของวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้เริ่มเปิดให้บริการจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ด้านฝั่งตะวันออกแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2555 ซึ่งทำให้การตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจุดตรวจค้นใหม่ดังกล่าวมีขนาดพื้นที่กว้างถึง 1,600 ตารางเมตร ติดตั้งเครื่อง X-Ray สัมภาระได้มากถึง 12 เครื่อง เครื่อง X- Ray กระเป๋าแบบ 3 มิติ (เครื่อง CT 80) จำนวน 2 เครื่อง สำหรับเครื่อง X-Ray ร่างกาย ได้มีการติดตั้งเครื่อง Walk Through Metal Detector จำนวน 6 เครื่อง และเครื่อง Body Scanner จำนวน 2 เครื่อง ทำให้สามารถตรวจค้นผู้โดยสารได้มากถึง 3,600 คนชั่วโมง
นายสมชัยกล่าวว่า สำหรับจุดตรวจค้นใหม่จะตั้งอยู่บนชั้นลอยเหนือจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ฝั่งตะวันออก บริเวณหลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร K, Lชั้น 5 ของอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเมื่อย้ายจุดตรวจค้นใหม่ไปอยู่บริเวณดังกล่าว ทำให้ต้องมีการปรับกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศใหม่ จากเดิมที่ผู้โดยสารจะต้องผ่านการตรวจหนังสือเดินทาง (Passport) ก่อนแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการตรวจค้นร่างกายเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน เป็นเมื่อผู้โดยสารตรวจบัตรโดยสาร (Check-in) แล้ว ผู้โดยสารจะต้องขึ้นไปยังชั้นลอยเพื่อผ่านระบวนการตรวจค้นร่างกายก่อน และจึงลงไปที่จุดตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อจะไปขึ้นเครื่องบินต่อไป โดยกระบวนการตรวจค้นจะกระทำก่อนการตรวจหนังสือเดินทาง
ดังนั้นหากผู้โดยสารเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับการนำของเหลว เจล เสปร์ยในปริมาตรเกินกว่าที่กำหนด หรือของมีคมที่ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินได้จะสามารถนำไปให้ญาติหรือนำมาดำเนินการอย่างอื่นได้ตามความต้องการ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบ ทสภ. ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและแนะนำผู้โดยสารไว้แล้วตลอด 24 ชั่วโมง