นัดสุดท้ายของกลุ่มซี สเปน, โครเอเชีย อิตาลี เป็น 3 ทีมที่ลุ้นแย่งกันเข้ารอบต่อไป โดย อิตาลี ของกุนซือเชซาเร่ ปรันเดลลี จะดวลฝีมือกับกุนซือจากชาติเดียวกัน จิโอวานนี่ ตราปัตโตนี่ ที่คุมทีมไอร์แลนด์ตกรอบเป็นทีมแรกในยูโรครั้งนี้ เกมนี้อิตาลีที่เสมอมา 2 นัดไม่มีทางเลือกนอกจากเอาชนะไอร์แลนด์เท่านั้นจึงจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไป สภาพทีมอิตาลีต้องรอเช็กความฟิตของมาริโอ บาโลเตลลี่ ที่มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และสถิติการพบกันล่าสุดปรากฏว่าอิตาลี และ ไอร์แลนด์ พบกันในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 2010 ซึ่งเสมอกันไปทั้ง 2 นัด เหย้า-เยือน และเงื่อนไขที่จะทำให้อิตาลีได้ผ่านเข้ารอบหากชนะไอร์แลนด์คือลุ้นให้คู่ระหว่างสเปน กับ โครเอเชียมีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น หรือผลออกมาเสมอกัน 0-0
ขณะที่คู่ระหว่างโครเอเชีย กับ แชมป์เก่า สเปน นัดนี้ทีมใดชนะจะเข้ารอบในฐานะแชมป์ของกลุ่มซีทันที ส่วนทีมที่แพ้ยังมีโอกาสเข้ารอบแต่ต้องลุ้นให้อิตาลีไม่ชนะไอร์แลนด์ โดยสภาพทีมโครเอเชียของสลาเวน บิลิช ต้องลุ้นว่า นิกิช่า เยลาวิช กองหน้าตัวเก่งจะพร้อมลงสนามยืนเป็นหน้าเป้าคู่กับ มาริโอ มานซูคิช ได้หรือไม่หลังจากเยลาวิชมีอาการป่วยจนไม่ได้ฝึกซ้อม ส่วนบิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมชาติสเปนยืนยันจะจัดทีมเพื่อหวังชัยชนะ แต่สเปนก็ต้องระวังเพราะมีนักเตะติดใบเหลืองอยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็น จอร์ดี้ อัลบา, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ชาบี อลอนโซ่ และ ฆาบี มาร์ติเนซ
สำหรับการพบกันก่อนหน้านี้ปรากฏว่าทั้ง 2 ทีมยังไม่เคยพบกันในแมตช์อย่างเป็นทางการเลยทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโร โดยการพบกันในเกมอุ่นเครื่อง 4 ครั้ง สเปนชนะ 2 เสมอ 1 และโครเอเชียชนะเพียงครั้งเดียวและเป็นชัยชนะที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1994
