ต้นทุนปลูกยางพาราพุ่ง ชนวนเหตุชาวสวนยางใต้ ขู่ปิดถนนกระตุ้นรัฐช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณอุดหนุน จำนวน 15,000 ล้านบาท เพื่อแทรกแซงราคาไปแล้ว แต่ราคาแทรกแซง ก็ยังไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต ทำให้พวกเขาใช้มาตรการกดดันด้วยการเตรียมชุมนุมครั้งใหญ่
ด้วยภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวในแต่ละวันที่สูง กว่า 200 บาททำให้ชาวสวนยางในพื้นที่ ตำบลเขาหัวควาย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานีจำต้องออกมากรีดยางต่อไปแม้ว่าราคายางพาราจะตกต่ำเหลือไม่ถึงกิโลกรัมละ 100 บาทเพราะน้ำยางเป็นรายได้ทางเดียวที่นำมาหล่อเลี้ยงหลายชีวิตในครอบครัว พวกเขาจึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ
ต้นทุนบำรุงรักษาสวนยางพื้นที่ 1 ไร่ อาจต้องใช้ปุ๋ยมากกว่า 1 กระสอบซึ่งสูงเกือบ 1,000 บาทต่อกระสอบ ยังไม่รวมค่าจ้างแรงงานที่ต้องดูแลทุก 3 เดือนหรือบางแปลงที่ยางอายุยังน้อยต้องดูแลเกือบทุกเดือน รวมทั้งค่ากำจัดวัชพืช ทำให้กลุ่มผู้ค้าและชาวสวนยางพารารวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลพยุงราคาให้อยู่ที่กิโลกรัมละ ๑๒๐ บาท และเห็นว่าโครงการแซกแซงราคาที่รัฐบาลใช้งบประมาณอุดหนุนจำนวน 15,000 ล้านก่อนหน้านี้ ไม่ประสบผลเพราะมีเพียงสถาบันเกษตรกรเพียงบางกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์ขณะที่ชาวสวนยางส่วนใหญ่กลับถูกทอดทิ้ง
ดังนั้น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางในภาคใต้รวมตัวปิดถนนในพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำมาครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นในครั้งนี้ มนูญ อุปลา แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องราคายาง จ.สุราษฎร์ ระบุว่า หากไม่มีมาตรการเพื่อยกระดับราคาให้สูงขึ้นอย่างชัดเจนก็จะมีการชุมนุมกดดันครั้งใหญ่จากชาวสวนยางทั่วภาคใต้