จับตาวิกฤตยูโร หลัง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รายงานในครม.ว่าขณะนี้วิกฤติการเงินในยูโรโซน ล่าสุดประเทศไซปรัส ถือเป็นประเทศที่ 5 ที่แสดงความประสงค์จะขอรับการช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำว่าวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปจะส่งผลกระทบมาถึงไทยในไม่ช้า
นอกจากนี้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือได้ปรับลดเครดิตของธนาคารในสเปน 28 แห่งจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับลดเครดิตของธนาคารทั่วโลกรวม 15 แห่งไปในเวลาใกล้เคียงกัน ขณะเดียวกันนายกิตติรัตน์ ยังบอกว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงและคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์อาจคืบคลานเข้าใกล้ประเทศไทยมากขึ้นทุกขณะ จึงเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเข้าร่วมประชุมครม.เศรษฐกิจ ทั้ง 9 กระทรวง ซึ่งจะมีการรายงานอย่างใกล้ชิดต่อไป
ครม.ยังเห็นชอบผลการประชุมหารือเพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งมีมาตรการรับมือวิกฤติหนี้ยุโรปใน 10 มาตรการ เช่นการจัดตั้งคณะทำงาน 3 คณะเพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด การมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม แรงงานและพาณิชย์ เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 4 อุตสาหกรรม ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ได้รายงานการสรุปผลการประชุมหารือเพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2555 ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมนั้นเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐและอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวสนับสนุนด้านอุปสงค์ขยายตัวออย่างต่อเนื่อง การส่งออกยังคงหดตัว 3.5% การจัดเก็บรายได้ยังคงเป็นไปตามเป้า
ทั้งนี้จากวิกฤติยูโรนั้นส่งผลให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการส่งออกและการท่องเที่ยวและการลงทุนโดยธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าผลกระทบต่อสถาบันการเงินไทยค่อนข้างจำกัดเนื่องจากไทยมีธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับทางยูโรไม่มาก และสถาบันทางการเงินมีสภาพคล่องดี หากปัญหามีความรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศได้ ตลาดการเงินของประเทศไทยได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัดเนื่องจากการไหลเข้าไหลออกของเงินในตลาดทุนมีการเปลี่ยนแปลงไม่รุนแรง
อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า สถานการณ์การส่งออกไทยในช่วง 4เดือนแรกจะหดตัว 3.9 % โดยกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม 90% ของผู้ประกอบการส่งออกทั้งหมด และลดเป้าหมายการส่งออกไปยูโรลงเหลือ 5% แต่คงเป้าหมายการส่งออกปี 2555 ที่ 15%
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ได้แก่ อิเล็กทรอนิค สิ่งทอ อัญมณี และยานยนต์ ต้องมีมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันกระทรวงแรงงานรายงานว่า ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียน กรณีว่างงานสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาขยายตัว 55.5%