ศาลสั่งยกฟ้องกรณี ค่าย ป.ประมุข ฟ้อง บัวขาว ชกไทยไฟท์

ปัญหาระหว่าง บัวขาว กับ ค่าย ป.ประมุข ได้ข้อยุติแล้ว หลังศาลแพ่งวินิจฉัย สั่งยกฟ้องคู่กรณีทุกฝ่าย และทั้งหมดเตรียมแถลงร่วมกันในเย็นวันนี้

ศาลแพ่ง เรียกผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย , ตัวแทนไทยไฟท์ , ทนายของ บัวขาว , ทนาย ค่าย ป.ประมุข และ หัวหน้าคณะค่ายป.ประมุข เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาการขึ้นชกไทยไฟท์ของบัวขาว เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดย ค่าย ป.ประมุข ยื่นฟ้อง บัวขาว รวมทั้งไทย ส่วนฝ่ายจัดการแข่งขันไทยไฟท์ ก็ฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย และค่าย ป.ประมุขจำนวน 100 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลวินิจฉัยยกฟ้อง คู่กรณีทุกฝ่าย พร้อมสั่งให้ บัวขาว กลับมาชกมวยได้อีก ในชื่อค่ายป.ประมุข ส่วนค่าตัวจากการชก บัวขาวได้ 60 เปอร์เซ็นต์ ค่ายป.ประมุข ได้ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ นอกเหนือจากชกมวย รวมทั้งการไปชกต่างประเทศ บัวขาวได้ 75 เปอร์เซ็นต์ ค่ายป.ประมุขได้ 25 เปอร์เซ็นต์

โดยในวันนี้ (4 ก.ค.) ไทยไฟท์ จะเชิญ บัวขาว ร่วมกับ กกท. และค่าย ป.ประมุขเปิดใจครั้งแรก หลังศาลไกล่เกลี่ย ใน เวลา 17.00 น. ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ห้อง 217 ซึ่งจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับแฟนมวยและประชาชน เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าได้ข้อยุติแล้ว

สำหรับสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลมี 7 ข้อ คือ
1.บัวขาวจะขึ้นเวทีมวยโดยใช้ชื่อว่า บัวขาว ป.ประมุข จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 โดยรายได้ทั้งหมด บัวขาวจะได้ 60 เปอร์เซ็นต์ ค่ายป.ประมุข 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรายได้ ด้านโฆษณาและการโชว์ตัวนั้น บัวขาวจะได้ 75 เปอร์เซ็นต์ ค่ายได้ 25 เปอร์เซ็นต์ โดย หากบัวขาวไม่สามารถชกมวยต่อไปได้ ข้อตกลงเรื่องเงินส่วนแบ่งถือว่ายุติ 2.การรับงานต่างๆของบัวขาวไม่ว่าจะโฆษณาหรือชกมวย การตัดสินใจขึ้นอยู่กับบัวขาว
3.บัวขาวสามารถฝึกซ้อมมวยหรืออยู่อาศัยที่ไหนก็ได้
4.ทั้งสองฝ่ายต้องถอนเรื่อง ที่ยื่นไว้กับคณะกรรมการกีฬามวยทั้งหมดและไม่เรียกร้องอะไรต่อกันอีก
5.ค่ายป.ประมุขยินยอมให้บัวขาวขึ้นชกไทยไฟต์ได้
6.ค่ายป.ประมุขถอนฟ้องบริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด และจ่ายเงินค่าตัวบัวขาวให้กับทางค่ายป.ประมุขภายใน 15 วัน
7. ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามสัญญานี้อย่างเคร่งครัด หากฝ่ายใดผิดข้อสัญญา ให้อีกฝ่ายดำเนินการฟ้องร้องได้ทันที