ก.พาณิชย์ ประกาศราคาแนะนำปาล์มดิบกิโลกรัมละ 4 บาท
กระทรวงพาณิชย์ จัดการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด โดยได้เชิญโรงกลั่น โรงงานสกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเกษตรกร มาร่วมหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาผลปาล์มดิบ หรือผลปาล์มทะลายที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าในวันนี้ (30 เม.ย.2558) จะมีการประกาศราคาแนะนำปาล์มดิบที่มีเปอร์เซ็นน้ำมันร้อยละ 17 รับซื้อที่กิโลกรัมละ 4 บาท และทุก 1 เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นจะปรับราคาสูงขึ้น 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่วนลดลงทุก 1 เปอร์เซ็นต์ ราคารับซื้อถูกลง 25 สตางค์ และจะรับซื้อต่ำสุดที่ 15 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกันกังวลว่าเกษตรกรจะปรับตัวไม่ทันสำหรับราคาแนะนำ จึงผ่อนผันให้เกษตรกรขายปาล์มดิบที่มีเปอร์เซนต์น้ำมันต่ำกว่าร้อยละ 17 ได้ในระยะ 3 เดือน เริ่มวันที่ 1 พ.ค. - 31 ก.ค.2558 ซึ่งมาตรการนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อออกประกาศ และให้ กกร.บังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยหากครบกำหนด 3 เดือน หลังจากการประกาศเป็นกฎหมาย เกษตรกรที่ขายปาล์มดิบที่มีน้ำมันต่ำกว่าร้อยละ 17 จะไม่สามารถขายได้ เนื่องจากผิดกฎหมายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะทำงานร่วมกันในเรื่องของตัวเลข การประมาณการณ์ ตัวเลขผลผลิตในสต็อก โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อทำงานร่วมกันโดยมีภาคเอกชนและสหกรณ์ร่วมด้วยเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันในอนาคต
ด้านนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าการกำหนดระบบราคาซื้อขายปาล์มที่มีเปอร์เซ็นน้ำมันร้อยละ 17 กิโลกรัมละ 4 บาท มาจากสูตรการวิเคราะห์คำนวนทางวิชาการและด้านเศรษฐกิจแล้ว ซึ่งการปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็นการปฏิรูปการซื้อขายปาล์มในอนาคต ขณะที่ปัจจุบันปาล์มดิบของไทยมีเปอร์เซ็นน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 18.26
ส่วนเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ต่ำกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณไม่มากนัก คาดว่าเกษตรกรจะสามารถปรับตัวได้ภายใน 3 เดือน โดยจากนี้ไปผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจะต้องเน้นการสร้างคุณภาพสินค้ามาแลกกับราคาซื้อ-ขายที่สูงขึ้น โดยจากการสำรวจพื้นที่ปลูกปาล์มทั่วประเทศมีอยู่ 43 ล้านไร่ ผลิตเป็นน้ำมันปาล์มได้ 13 ล้านตันต่อปี