เป็นเวลา 7 คืนที่นายสมใจ แก้วเนียม ชาว ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี รอฟังความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทย ที่ถูกทหารพม่าควบคุมตัวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ด้วยความหวังว่า เพื่อนสนิทคือ นายเล็ก และนายเทือ จะได้รับการปล่อยตัว
หลังถูกทหารพม่าควบคุมตัวไปพร้อมกับคนไทยอีกกว่า 50 ชีวิต ซึ่งอ้างว่า คนกลุ่มนี้เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่ากว่า 4,000 ไร่ ซึ่งวันเกิดเหตุนั้น เพื่อนของตนทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้าไปดูที่ดิน ที่บ้านอินทนินขวาง จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ตามที่นายหน้ารายหนึ่งได้กล่าวไว้ ซึ่งนายสมใจ ยังคงพักที่สำนักสงฆ์บ้านในกรัง เพื่อรอฟังข่าวเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ยังไม่มีรายชื่อว่า ถูกทหารพม่าควบคุมตัวอยู่ ในขณะที่ญาติอีกหลายสิบคน ทยอยเดินทางกลับบ้านแล้วตั้งแต่ช่วงบ่าย หลังได้ทราบข่าวว่า ญาติของตนปลอดภัย
โดยตลอดทั้งวัน ญาติผู้ที่ถูกทหารพม่าควบคุมตัว จากหลายจังหวัดในภาคใต้ เดินทางมาสอบถามความคืบหน้าจากทหาร ซึ่งตั้งกองอำนวยการที่บ้านในกรัง ตำบล จ.ป.ร.อำเภอกระบุรี ด้วยความหวังว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของการเจรจา แต่ได้คลายความกังวล เมื่อรู้ว่าญาติของตนปลอดภัย
ขณะที่มีรายงานว่า ทหารพม่าแจ้งจำนวน ผู้ที่ควบคุมตัวไว้ทั้งหมด 58 คน เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 2 วันก่อน คือ จำนวน 49 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่า จำนวนคนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากทหารพม่า เพิ่งนำตัวผู้ที่อาศัยในเพิงพักตามแนวชายป่ามาสอบสวน และยืนยันว่า คนไทยทั้งหมดยังไม่ถูกส่งไปดำเนินคดีที่ จ.เกาะสอง ตามที่มีกระแสข่าว
สำหรับคนไทยที่ถูกทางการพม่าควบคุมตัวครั้งนี้ จะแบ่งการดำเนินคดีออกเป็น 2 ส่วน คือ ผู้ที่ตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาวุธสงคราม จะถูกส่งไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่ จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ซึ่งทางการไทยต้องหารือเรื่องการช่วยเหลือขั้นต่อไป ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย จะถูกทางการพม่าแจ้งข้อหาลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยจะเจรจาขอให้มีการเสียค่าปรับ และส่งตัวกลับประเทศไทย ซึ่งเมื่อเดินทางกลับมาก็อาจถูกดำเนินคดีในฝั่งไทยฐานลักลอบออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองปี 2552 ด้วย ที่มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท