นายกฯ ย้ำดำเนินการบริหารน้ำโปร่งใส ไร้การเมืองแทรก

นายกรัฐมนตรี ยืนยันการเปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาบริหารจัดการน้ำ จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส โดยไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเป็นคณะกรรมการคัดเลือก ขณะที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตือนรัฐบาลให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้รอบคอบ และ เกิดความโปร่งใส

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย ร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย หรือ กบอ. โดยกล่าวถึงการที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาวางแผนบริหารจัดการน้ำในวงเงิน 300,000 ล้านบาท ว่าการดำเนินการโครงการนี้จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส โดยยินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของโครงการสาธารณชน พร้อมระบุ บริษัทที่มาขอรับร่างทีโออาร์แผนบริหารจัดการน้ำ จะต้องกลับมาเสนอความคิดว่า จะมีการบูรณาการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่เดิม และเพิ่มเติมใหม่อย่างไร โดยเน้นยึดหลักตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณา จะมีคณะกรรมการ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบ ซึ่งข้าราชการจะเป็นข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้ว และไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

โดยขณะนี้การลงทะเบียน เปิดรับร่างทีอาร์เสนอแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม และจะปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 23 กรกฎาคม ล่าสุดมีบริษัททั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่สนใจมาลงทะเบียนขอรับข้อเสนอกรอบแนวความคิด รวม 97 ราย ซึ่งเบื้องต้นได้จัดไว้จำนวน 500 ชุด

และใน่ช่วงบ่าย นายกฯ จะเป็นเดินทางไปตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการขุดลอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หอประชุมศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ โดยจะมีการชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่รับน้ำทำฟลัดเวย์

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการป้องกันน้ำท่วมในหลายพื้นทีโดยเฉพาะการซ่อมแซมประตูระบายน้ำ และ การสร้างเขื่อนป้องกันของนิคมอุตสาหกรรมโดยมองว่ารัฐบาลขณะนี้ มุ่งให้ความสนใจการประมูลโครงการขนาดใหญ่ และการให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาทำแผนบริหารจัดการน้ำ โดยขาดรายละเอียดขั้นตอนการตรวจสอบ จึงต้องการให้ดูแลเรื่องความโปร่งใส เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะมีการรั่วไหลจากโครงการนี้