การประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการจัดโครงสร้างการทำงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำแบบเบ็ดเสร็จ หรือ single command center ให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อที่จะประสานไปยังทุกจังหวัดและแต่ละกระทรวงเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น รวมถึงวางระดับการเตือนภัย
นอกจากนี้ยังได้หารือการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่ตอนล่างที่เป็นที่ลุ่ม โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่มีอุโมงค์รับน้ำ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการระบายน้ำ และ กรุงเทพมหานครไปหารือร่วมกัน เพื่อเร่งรัดการระบายน้ำทั้งในด้านตะวันออก และตะวันตก ขณะที่ต้องหาทางออกว่าจะทำอย่างไรให้การระบายน้ำทำได้เร็วขึ้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการเปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาวางแผนบริหารจัดการน้ำในวงเงิน 300,000 ล้านบาทโดยยืนยันในการดำเนินการโครงการนี้ด้วยความโปร่งใส และ ยินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของโครงการต่อสาธารณชน
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวัสดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่าขณะนี้มีบริษัทต่างชาติให้ความสนใจรับทีโออาร์ แล้ว 4 - 5 ราย สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณา จะมีคณะกรรมการ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบ ซึ่งข้าราชการจะเป็นข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้ว โดยการพิจารณาจะคำนึงถึงความรวดเร็ว ความเหมาะสมของราคา ตรงตามเป้าหมาย สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบริษัท ที่ออกแบบและบริษัทก่อสร้างร่วมกันดำเนินการ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ให้บริษัทที่เป็นนายทุนของฝ่ายการเมืองมีความได้เปรียบในการแข่งขันโครงการ
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลทบทวนโครงการขนาดใหญ่ในการบริหารจัดการน้ำ เพราะโอกาสที่จะรั่วไหลจากการทุจริตมีสูงมาก ขณะที่ยังไม่เห็นรูปธรรมของการบริหารจัดการแก้ปัญหาของรัฐบาล แต่กลับไปมุ่งให้ความสำคัญกับ การประมูลงานบริษัทต่างชาติ 300,000 ล้านบาท ซึ่งควรต้องเปิดเผยรายละเอียดให้มีการตรวจสอบ โดยพรรคประชาธิปัตย์จะติดตามตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อย่างใกล้ชิด