ไทย-กัมพูชา ปรับกำลังทหารรอบปราสาทพระวิหาร วันนี้
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะนายทหารระดับสูง จะเดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 23 อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ในวันนี้ (18 ก.ค.) เวลา 11.00 น. เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป และทำพิธีวางกำลังตำรวจตระเวนชายแดน บริเวณพื้นที่เขาพระวิหาร เพื่อทดแทนกำลังของทหารตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก
ส่วนฝ่ายกัมพูชาจะมี พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา เป็นประธานในพิธีปรับกำลังทหาร ออกจากเขตบริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหาร จากนั้นกัมพูชาจะจัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 4 ปี การขึ้นทะเบียนเข้าพระวิหารเป็นมรดกโลก สำหรับวันนี้ (18 ก.ค.) จะเป็นวันแรกที่มีการเริ่มปรับกำลังทหารในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ซึ่งจะเป็นวันครบรอบหนึ่งปี หลังศาลโลก มีคำสั่งให้กัมพูชาและไทยปรับกำลังทหาร
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการตามมาตรการของศาลโลกว่า คำสั่งให้ปรับกำลังทหารและให้มีผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียมาประจำการในพื้นที่ โดยกรณีชองคณะผู้สังเกตการณ์ กองทัพกำลังพิจารณาร่างทีโออาร์ที่ฝ่ายอินโดนีเซียเป็นผู้ยกร่าง ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภากลาโหม ซึ่งคาดว่า ภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้ข้อยุติ จากนั้นจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด และ นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาในเดือนสิงหาคม ตามมาตรา 190
สำหรับเหตุที่ต้องดำเนินการตามคำสั่งมาตรการชั่วคราวของศาลโลก เพราะขณะนี้ทางศาลได้แจ้งมาแล้วว่าจะขึ้นนั่งบัลลังก์เพื่อให้ไทยและกัมพูชาให้ปากคำด้วยวาจาอีกครั้งในเดือนเมษายนปีหน้า ไทยและกัมพูชา จึงต้องดำเนินการตามมาตรการชั่วคราวให้แล้วเสร็จ ส่วนคำตัดสินนั้นทีมทนายคาดว่าน่าจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมปีหน้า